เมเจอร์ฯ โชว์สำรองที่ดิน7แปลงรับแผน3ปี ขึ้นคอนโดกลางเมือง-บ้านหรูรวม1.5หมื่นล.
วันที่ : 26 กันยายน 2566
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ฯ แจงความคืบหน้าคัด 15 แลนด์แบงก์ศักยภาพรอบกรุงเทพฯ รับแผนรุกตลาดอสังหาฯระยะยาว มูลค่า 31,440 ล้านบาท ล่าสุด 8 แลนด์แบงก์อยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการ มูลค่า 16,300 ล้านบาท และวางแผนสำรองแลนด์แบงก์ 7 แปลง ลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯตามแผน 3 ปีต่อเนื่อง มูลค่าเพิ่มอีก 15,140 ล้านบาท
นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าตามวิสัยทัศน์ของแบรนด์ในการมุ่งสู่การเป็น Lifescape Developer ได้ประกาศแผนธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์แบบ All Time High ในการรุกตลาดผ่านโครงการใหม่รวมมูลค่ากว่า 14,700 ล้านบาท ปัจจุบัน ได้ดำเนินการพัฒนาโครงการระดับคุณภาพต่างๆ ตามแผนกลยุทธ์และระยะเวลาที่บริษัทฯได้วางแผนไว้ เพื่อผลักดันศักยภาพและรายได้สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
โดยบริษัทฯได้วางแผนเพื่อพัฒนาโครงการทั้งในส่วนของแนวราบและคอนโดมิเนียมมากกว่า 15 พื้นที่ อาทิ ปิ่นเกล้า บรมราชชนนี พัฒนาการ รามคำแหง พร้อมพงษ์ กรุงเทพกรีฑา พญาไท ลาดพร้าว และพหลโยธิน เป็นต้น มูลค่ารวมของโครงการกว่า 31,440 ล้านบาท
ปัจจุบันได้ดำเนินการพัฒนาโครงการบนพื้นที่ทั้งสิ้น 8 แปลง แบ่งเป็น กลุ่มแนวราบ 5 โครงการ ได้แก่ โครงการ เมย์ฟิลด์ เลน (Mayfield Lane) รัชดา-ลาดพร้าว 26 มูลค่า 400 ล้านบาท ,โครงการเมย์ฟิลด์ (Mayfield) ปิ่นเกล้า มูลค่า 1,000 ล้านบาท ,โครงการเมย์ฟิลด์ (Mayfield) รามอินทรา-คู้บอน มูลค่า 2,300 ล้านบาท ,โครงการ เท็น แอนด์ โอนลี่ (10 & Only) พัฒนาการ 20 มูลค่า 1,100 ล้านบาท และโครงการมิลฟอร์ด (Milford) รามคำแหง 53 มูลค่า 1,600 ล้านบาท
และกลุ่มคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ได้แก่ โครงการมาร์คีส์ (Marquis) พญาไท มูลค่า 5,500 ล้านบาท , โครงการมิวนิค (Muniq) พร้อมพงษ์ มูลค่า 3,300 ล้านบาท และโครงการมารุ (Maru) จุฬา มูลค่า 1,100 ล้านบาท โดยรวมมูลค่าโครงการที่ดำเนินการพัฒนาก่อสร้างอยู่ที่ 16,300 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีทำเลศักยภาพอื่นๆ ที่น่าจับตามองครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ อีก 7 แปลง ทั้งในส่วนพื้นที่ ใจกลางเมือง แหล่งไลฟ์สไตล์และออฟฟิศ หรือใกล้เส้นทางคมนาคมที่สะดวกต่อการเดินทาง เป็นต้น โดยแบ่งเป็น แนวราบ 5 โครงการ บริเวณพื้นที่บรมราชชนนี กรุงเทพกรีฑา และลาดพร้าว ซอย 8 เป็นต้น และคอนโดฯ 2 โครงการ บริเวณพื้นที่เจริญเมือง เจริญกรุง และอารีย์-พหลโยธิน เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯ วางแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับคุณภาพ ทั้งโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดฯ เพื่อตอบรับทุกความต้องการ ทุกเซกเมนต์ในทุกระดับราคา โดยมีมูลค่าโครงการที่กำลังพัฒนาในอนาคตกว่า 15,140 ล้านบาท
"ซึ่งจากแผนการลงทุนและพัฒนาพื้นที่ศักยภาพของบริษัทฯ ทั้ง 15 แลนด์แบงก์รอบกรุงเทพฯ มูลค่ารวมกว่า 31,440 ล้านบาท จะสามารถสร้างความเคลื่อนไหวในตลาดอสังหาฯตั้งแต่ปี 2567-2569 ตลอดระยะเวลา 3 ปี ต่อเนื่องกัน"
โดยบริษัทฯได้วางแผนเพื่อพัฒนาโครงการทั้งในส่วนของแนวราบและคอนโดมิเนียมมากกว่า 15 พื้นที่ อาทิ ปิ่นเกล้า บรมราชชนนี พัฒนาการ รามคำแหง พร้อมพงษ์ กรุงเทพกรีฑา พญาไท ลาดพร้าว และพหลโยธิน เป็นต้น มูลค่ารวมของโครงการกว่า 31,440 ล้านบาท
ปัจจุบันได้ดำเนินการพัฒนาโครงการบนพื้นที่ทั้งสิ้น 8 แปลง แบ่งเป็น กลุ่มแนวราบ 5 โครงการ ได้แก่ โครงการ เมย์ฟิลด์ เลน (Mayfield Lane) รัชดา-ลาดพร้าว 26 มูลค่า 400 ล้านบาท ,โครงการเมย์ฟิลด์ (Mayfield) ปิ่นเกล้า มูลค่า 1,000 ล้านบาท ,โครงการเมย์ฟิลด์ (Mayfield) รามอินทรา-คู้บอน มูลค่า 2,300 ล้านบาท ,โครงการ เท็น แอนด์ โอนลี่ (10 & Only) พัฒนาการ 20 มูลค่า 1,100 ล้านบาท และโครงการมิลฟอร์ด (Milford) รามคำแหง 53 มูลค่า 1,600 ล้านบาท
และกลุ่มคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ได้แก่ โครงการมาร์คีส์ (Marquis) พญาไท มูลค่า 5,500 ล้านบาท , โครงการมิวนิค (Muniq) พร้อมพงษ์ มูลค่า 3,300 ล้านบาท และโครงการมารุ (Maru) จุฬา มูลค่า 1,100 ล้านบาท โดยรวมมูลค่าโครงการที่ดำเนินการพัฒนาก่อสร้างอยู่ที่ 16,300 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีทำเลศักยภาพอื่นๆ ที่น่าจับตามองครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ อีก 7 แปลง ทั้งในส่วนพื้นที่ ใจกลางเมือง แหล่งไลฟ์สไตล์และออฟฟิศ หรือใกล้เส้นทางคมนาคมที่สะดวกต่อการเดินทาง เป็นต้น โดยแบ่งเป็น แนวราบ 5 โครงการ บริเวณพื้นที่บรมราชชนนี กรุงเทพกรีฑา และลาดพร้าว ซอย 8 เป็นต้น และคอนโดฯ 2 โครงการ บริเวณพื้นที่เจริญเมือง เจริญกรุง และอารีย์-พหลโยธิน เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯ วางแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับคุณภาพ ทั้งโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดฯ เพื่อตอบรับทุกความต้องการ ทุกเซกเมนต์ในทุกระดับราคา โดยมีมูลค่าโครงการที่กำลังพัฒนาในอนาคตกว่า 15,140 ล้านบาท
"ซึ่งจากแผนการลงทุนและพัฒนาพื้นที่ศักยภาพของบริษัทฯ ทั้ง 15 แลนด์แบงก์รอบกรุงเทพฯ มูลค่ารวมกว่า 31,440 ล้านบาท จะสามารถสร้างความเคลื่อนไหวในตลาดอสังหาฯตั้งแต่ปี 2567-2569 ตลอดระยะเวลา 3 ปี ต่อเนื่องกัน"
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ