ครึ่งปีต่างชาติช้อปคอนโด3.5หมื่นล้าน 
Loading

ครึ่งปีต่างชาติช้อปคอนโด3.5หมื่นล้าน 

วันที่ : 19 กันยายน 2566
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด ให้คนต่างชาติทั่วประเทศในช่วง 6 เดือนแรกปี 2566 รวม 7,338 หน่วย มูลค่า 35,211 ล้านบาท โดยมีการโอนให้ชาวจีนมากสุด 3,448 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 16,992 ล้านบาท คิดเป็น 48.3%
          
          จีนไม่แผ่ว-ชลบุรีแซง กทม.ไม่เกิน3ล้านฮอต

          เสนาฯ อ้อนรัฐบาลกระตุ้นดีมานด์ที่อยู่อาศัย

          นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด ให้คนต่างชาติทั่วประเทศในช่วง 6 เดือนแรกปี 2566 (มกราคม-มิถุนายน) รวม 7,338 หน่วย มูลค่า 35,211 ล้านบาท โดยมีการโอนให้ชาวจีนมากสุด 3,448 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 16,992 ล้านบาท คิดเป็น 48.3% รองลงมา รัสเซีย 2,556 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา 1,289 ล้านบาท สหราชอาณาจักร 1,287 ล้านบาท และเมียนมา 1,274 ล้านบาท ซึ่ง จ.ชลบุรี การโอนเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 43.4% ขณะที่ กรุงเทพฯเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ 37.7% รวมทั้ง 2 จังหวัด มีจำนวนหน่วยและมูลค่ารวมกันสูงถึง 81.1% แตกต่างจากช่วงที่ผ่านมา หรือระหว่างปี 2561-2565 ที่กรุงเทพฯ มียอดโอนคนต่างชาติเป็นอันดับ 1 และชลบุรี เป็นอันดับ 2 ขณะที่ภูเก็ต เป็นอันดับ 3 มีสัดส่วน 6.3% และที่น่าสนใจคือในไตรมาสนี้ เมียนมามีการโอนราคาเฉลี่ยต่อหน่วยสูงสุดที่ 7 ล้านบาท ขณะที่อินเดียมีการโอนห้องชุดขนาดใหญ่สุด 89.8 ตารางเมตร(ตร.ม.)

          นายวิชัยกล่าวว่า การโอนห้องชุดใหม่ 61.9% ขณะที่ ห้องชุดมือสองโอน 38.1% ระดับราคาที่เป็นที่นิยมมากสุด คือ ไม่เกิน 3 ล้านบาท คิดเป็น 44.5% รองลงมาราคา 3-5 ล้านบาท 24.7% ราคา 5-7.5 ล้านบาท 15.9% ราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป 9% และราคา 7.51-10 ล้านบาท 5.9% ขนาดที่นิยมมากสุด คือ พื้นที่ 31-60 ตร.ม. หรือ 1-2 ห้องนอน คิดเป็น 53.6% โดยภาพรวมการโอนห้องชุดให้คนต่างชาติ ทำให้เห็นได้ว่าปริมาณทั้งจำนวนหน่วย มูลค่า และพื้นที่ฟ้นตัวกลับมาอย่างชัดเจนแล้ว แต่ยังคงต่ำกว่าช่วงที่ก่อนเกิดโควิด

          น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA กล่าวว่า หากรัฐบาลมีนโยบายหรือมาตรการกระตุ้นระยะสั้นประกาศใช้ออกมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลดภาษี หรือการอุดหนุน จะช่วยให้เกิดกำลังซื้อที่อยู่อาศัยได้เช่นกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้คงเป็นผลทางบวกในระยะสั้นเท่านั้น

         ดังนั้น การจะให้ประชาชนมีอยู่อาศัยเป็นของตนเองในระยะยาว ต้องมีกลไกเรื่องมาตรการดูแลด้านภาระหนี้ในระยะ 30 ปี โดยเฉพาะเรื่องภาระดอกเบี้ย ทั้งการคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ ไม่มีการลอยตัว จะเป็นได้หรือไม่ เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาระยะยาวได้ ส่วนนโยบายลดภาระต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ โดยการประกาศลดราคาดีเซล เชื่อว่าจะผลต่อราคาสินค้าให้ลดลงมาในระยะหนึ่ง ขณะที่ประเด็นค่าแรงอสังหาฯ มีการคาดการณ์ว่าค่าแรงจะปรับขึ้นส่งผลต่อตลาดแรงงานทุกพื้นที่แน่นอน