ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่อยู่อาศัยไตรมาส 2 ปี 66 ลดลง
Loading

ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่อยู่อาศัยไตรมาส 2 ปี 66 ลดลง

วันที่ : 2 สิงหาคม 2566
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า ผลจากการสำรวจความเชื่อมั่นฯ แสดงให้เห็นว่า แม้ว่าในไตรมาส 2 ปี 2566 ผู้ประกอบการฯจะยังคงมีความเชื่อมั่นใจน้อยในด้านยอดขาย ผลประกอบการ และการเปิดโครงการใหม่ และ/หรือ เฟสใหม่ ซึ่งเป็นผลจากผลของปัจจัยลบต่าง ๆ
          ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ในภาวะปัจจุบัน (Current Situation Index) ในภาพรวมของไตรมาส 2 ปี 2566 มีค่าดัชนีเท่ากับ 47.5 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2566 ที่มีค่าดัชนีเท่ากับ 46.7 แต่เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปีก่อน ที่มีค่าดัชนีเท่ากับ 49.8 ซึ่งไตรมาสนี้มีความเชื่อมั่นลดลง และยังคงต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0

          ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารแห่งประเทศไทย และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยผลสำรวจ "ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล" ในภาพรวมของไตรมาส 2 ปี 2566 โดยในภาวะปัจจุบัน (Current Situation Index) มีค่าดัชนีเท่ากับ 47.5 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2566 (QoQ) ที่มีค่าดัชนีเท่ากับ 46.7 แต่เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปีก่อน (YoY) ซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 49.8 มีความเชื่อมั่นลดลง และยังคงต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 แต่หากพิจารณาในแต่ละด้านพบว่า ค่าดัชนีมีความเชื่อมั่นที่มีค่าสูงกว่าค่ากลางในระดับ 50 จุด มี 2 ด้าน คือด้านการลงทุนที่อยู่ในระดับ 55.8 จุด ซึ่งสูงขึ้นกว่าไตรมาสก่อน 3.3 จุด แต่ด้านการจ้างงานอยู่ที่ระดับ 53.3 จุด ต่ำลงจากไตรมาสก่อนหน้าเล็กน้อยที่ -3.2 จุด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นใน 2 ด้านนี้มาต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว

          ขณะที่ความเชื่อมั่นที่มีระดับความเชื่อมั่นต่ำกว่าระดับ 50 จุด หรือเริ่มเกิดภาวะขาดความเชื่อมั่น ประกอบด้วย ด้านผลประกอบการอยู่ในระดับ 44.8 จุด ต่อเนื่องมา 2 ไตรมาส ด้านยอดขายและด้านการเปิดโครงการใหม่และ/หรือเฟสใหม่อยู่ในระดับ 46.0 และ 47.7 จุด ต่ำกว่า 50 จุดเล็กน้อยและมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 3.2 และ 0.6 จุด นอกจากนี้ในด้านต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) อยู่ในระดับ 37.4 จุด แม้จะต่ำกว่าค่ากลางมากแต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าและเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2565 แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของผู้ประกอบการในส่วนนี้ได้ดีขึ้นผลจากการสำรวจความเชื่อมั่นฯ แสดงให้เห็นว่า แม้ว่าในไตรมาส 2 ปี 2566 ผู้ประกอบการจะยังคงมีความเชื่อมั่นใจน้อยในด้านยอดขาย ผลประกอบการ และการเปิดโครงการใหม่ และ/หรือ เฟสใหม่ ซึ่งเป็นผลจากผลของปัจจัยลบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. โดยมีการประกาศเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ที่ขึ้นร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 1.75 เป็นร้อยละ 2.00 ต่อปี โดยเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นรอบที่ 3 ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 แต่พบว่าความเชื่อมั่นทั้ง 3 ด้านมีทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย ซึ่งน่าจะเป็นเหตุที่ค้ำยันระดับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในด้านการลงทุนและการจ้างงานอยู่ นอกจากนี้ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็นับ เป็นปัจจัยลบสำคัญที่ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในด้านต้นทุนการประกอการที่ยังคงมีค่าดัชนีอยู่ในระดับต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับด้านอื่นๆ

          เมื่อจำแนกความเชื่อมั่นตามกลุ่มผู้ประกอบการ พบว่าความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันของผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies หรือกลุ่มบริษัทที่อยู่ในตลาด หลักทรัพย์ฯ ในไตรมาส 2 ปี 2566 มีค่าดัชนีเท่ากับ 52.1 สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่มีค่าดัชนี 50.0 ที่เท่ากับค่ากลาง แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies ยังคงมีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจในภาวะปัจจุบันทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ Listed Companies ด้านอยู่ที่ในระดับ 50 จุดขึ้นไป ประกอบด้วย ด้านผลประกอบการ ยอดขาย การลงทุน การจ้างงาน และการเปิดตัวโครงการใหม่และ/หรือเฟสใหม่ โดยความ เชื่อมั่นด้านต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) เท่านั้นที่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 จุดค่อนข้างมาก

          ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies หรือกลุ่มบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ในไตรมาส 2 ปี 2566 มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นเท่ากับ 40.6 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 41.9 และยังคงต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 ต่อเนื่องมากจากปี 2565 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการรายย่อยกลุ่ม Non-listed Companies มีความกังวลต่อปัจจัยลบดังกล่าวมากกว่ากลุ่ม Listed Companies ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ Non-listed Companies ที่ไม่มีด้านใดเลยที่เกินระดับ 50 จุดขึ้นไป