ตลาดบ้านหรู 10 ล้านบาทแข่งขันสูงหน่วยเหลือขายสะสมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
วันที่ : 25 พฤษภาคม 2564
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ส่งสัญญาณเตือนดีเวลลอปเปอร์ ผุดตลาดบ้านหรู เกิน 10 ล้านบาท เติบโดสวนกระเเสโควิด เเต่เเนวโน้มการแข่งขันจะสูง
ตลาดบ้านหรู 10 ล้านบาทอัพ ยังคงเติบโตสวนกระแสโควิด-19 ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ชี้ แม้ยอดขายดี แต่อุปทานใหม่เข้ามาเติมซัปพลายให้ต้องเฝ้าระวัง ขณะที่ผู้ประกอบการแบรนด์ใหญ่ ยังคงลงตลาดพัฒนาโครงการ เอสซีฯเปิดโครงการพรีเมียมโฮมออฟฟิศ เริ่ม 7-20 ล้านบาท
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวถึงแนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2564 โดยจากการประมวลผลสำรวจโดยภาพรวม พบว่า ตลาดบ้านจัดสรร บางโครงการบางราคายังน่าเป็นห่วง โดยผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญกับปริมาณอุปทานที่เข้ามาในระบบ เนื่องจากมีจำนวนและสัดส่วนสูงกว่าอาคารชุดในตลาดแล้ว โดยเฉพาะบ้านจัดสรร ราคามากกว่า 10 ล้านบาท มีอุปทานเพิ่มขึ้นทุกครึ่งปี
โดยในปี 2564 ทางศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ประเมินว่า ตลาดแนวราบยังคงมีการเติบโต ซึ่งเฉพาะในกลุ่มบ้านจัดสรร ราคาเกิน 10 ล้านบาท แต่การแข่งขันจะสูง โดยในปีที่ผ่านมา มีสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดประมาณ 3,280 หน่วย ซึ่งในทุกครึ่งปีจะมีซัปพลายเข้ามาในทุกครึ่งปีมากกว่า 1,300 หน่วย ทำให้จำนวนหน่วยมีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 51% ในทุกครึ่งปี
ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2563 ยอดขายเฉลี่ยประมาณ 1,290 หน่วยต่อรอบครึ่งปี หรือ +72% นับว่าเป็นจำนวนหน่วยที่ขายดี ขณะที่ก็มีหน่วยเหลือขายสะสมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 8,526 หน่วย ณ ครึ่งหลังของปี 63 ส่วนใหญ่กว่า 50% จะเป็นสินค้าประเภทบ้านเดี่ยวที่คงเหลืออยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล
ส่วนบ้านจัดสรร ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท. เป็นกลุ่มสินค้าที่มีความต้องการสูง แต่ไม่ค่อยมีสินค้า ที่เหลืออยู่ก็ยังคงขายได้อย่างต่อเนื่อง แต่ผู้ประกอบการได้มีการปรับจากการพัฒนาบ้านเดี่ยวมาเป็นบ้านแฝดแทน ซึ่งตลาดยังคงตอบรับไม่ดี และสำหรับทาวน์เฮาส์ความต้องการซื้อก็ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่อยู่ในทำเลดี ในขณะที่หน่วยเหลือขายยังคงมีอยู่มาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดบ้านจัดสรร ในกลุ่ม 10 ล้านบาท ผู้ประกอบการหลายค่ายมีการลงทุนและเปิดโครงการออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นตลาดที่รองรับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง และไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจและการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มากนัก มียอดขายที่สวนกระแสกับโควิด อาทิเช่น บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน), บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เตรียมเปิดโครงการบางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ เพชรเกษม-ปิ่นเกล้า เริ่ม 20-30 ล้านบาท และโครงการเวิร์คเพลส สายไหม-พหลโยธิน พรีเมี่ยมโฮมออฟฟิศ เริ่ม 7-20 ล้านบาท, บริษัทสิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กับโครงการ สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส, บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ที่จะขยับเพิ่มพอร์ตบ้านราคาเกินกว่า 10 ล้านบาท ออกสู่ตลาด และบริษัท บริทาเนีย จำกัด ในเครือออริจิ้นฯ เป็นต้น
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวถึงแนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2564 โดยจากการประมวลผลสำรวจโดยภาพรวม พบว่า ตลาดบ้านจัดสรร บางโครงการบางราคายังน่าเป็นห่วง โดยผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญกับปริมาณอุปทานที่เข้ามาในระบบ เนื่องจากมีจำนวนและสัดส่วนสูงกว่าอาคารชุดในตลาดแล้ว โดยเฉพาะบ้านจัดสรร ราคามากกว่า 10 ล้านบาท มีอุปทานเพิ่มขึ้นทุกครึ่งปี
โดยในปี 2564 ทางศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ประเมินว่า ตลาดแนวราบยังคงมีการเติบโต ซึ่งเฉพาะในกลุ่มบ้านจัดสรร ราคาเกิน 10 ล้านบาท แต่การแข่งขันจะสูง โดยในปีที่ผ่านมา มีสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดประมาณ 3,280 หน่วย ซึ่งในทุกครึ่งปีจะมีซัปพลายเข้ามาในทุกครึ่งปีมากกว่า 1,300 หน่วย ทำให้จำนวนหน่วยมีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 51% ในทุกครึ่งปี
ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2563 ยอดขายเฉลี่ยประมาณ 1,290 หน่วยต่อรอบครึ่งปี หรือ +72% นับว่าเป็นจำนวนหน่วยที่ขายดี ขณะที่ก็มีหน่วยเหลือขายสะสมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 8,526 หน่วย ณ ครึ่งหลังของปี 63 ส่วนใหญ่กว่า 50% จะเป็นสินค้าประเภทบ้านเดี่ยวที่คงเหลืออยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล
ส่วนบ้านจัดสรร ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท. เป็นกลุ่มสินค้าที่มีความต้องการสูง แต่ไม่ค่อยมีสินค้า ที่เหลืออยู่ก็ยังคงขายได้อย่างต่อเนื่อง แต่ผู้ประกอบการได้มีการปรับจากการพัฒนาบ้านเดี่ยวมาเป็นบ้านแฝดแทน ซึ่งตลาดยังคงตอบรับไม่ดี และสำหรับทาวน์เฮาส์ความต้องการซื้อก็ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่อยู่ในทำเลดี ในขณะที่หน่วยเหลือขายยังคงมีอยู่มาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดบ้านจัดสรร ในกลุ่ม 10 ล้านบาท ผู้ประกอบการหลายค่ายมีการลงทุนและเปิดโครงการออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นตลาดที่รองรับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง และไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจและการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มากนัก มียอดขายที่สวนกระแสกับโควิด อาทิเช่น บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน), บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เตรียมเปิดโครงการบางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ เพชรเกษม-ปิ่นเกล้า เริ่ม 20-30 ล้านบาท และโครงการเวิร์คเพลส สายไหม-พหลโยธิน พรีเมี่ยมโฮมออฟฟิศ เริ่ม 7-20 ล้านบาท, บริษัทสิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กับโครงการ สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส, บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ที่จะขยับเพิ่มพอร์ตบ้านราคาเกินกว่า 10 ล้านบาท ออกสู่ตลาด และบริษัท บริทาเนีย จำกัด ในเครือออริจิ้นฯ เป็นต้น
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ