รายงาน: โควิด-19 เร่งดีมานด์ บ้านมือ2 เติบโตอิงสถิติปัจจัย ราคาเอื้อมถึง-ทำเลโดนใจ
วันที่ : 16 เมษายน 2564
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เผย ตลาดบ้านมือสองคึก ขายเฉลี่ยเดือนละ 113,211 หน่วย และมีมูลค่าเฉลี่ยเดือนละ 842,253 ล้านบาท
ปฏิเสธไม่ได้ว่า นิยามการมีบ้านของผู้บริโภคในปัจจุบันนั้น มีด้วยกันหลากหลายมากขึ้น ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การซื้อบ้านมือหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการเลือกซื้อบ้านหลังที่สอง ยิ่งในยุคปัจจุบัน การซื้อบ้านต้องพิจารณาที่ความคุ้มค่าในราคาที่สามารถซื้อได้ (Affordable price)
ทั้งนี้ จากข้อมูลของ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ระบุว่า ตลาดบ้านมือสองมีขนาดของมูลค่าค่อนข้างสูง โดยมีการเสนอขายเฉลี่ยเดือนละ 113,211 หน่วย เป็นตลาดที่ใหญ่มาก รวมมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนสูงถึง 842,253 ล้านบาท ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์บ้านมือสองมีสัดส่วนเฉลี่ย 10.9% ต่อเดือน เมื่อเทียบกับจำนวนหน่วยที่ประกาศขาย
แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดบ้านมือสองอย่างมาก ดัชนีราคาบ้านมือสองในปีที่ผ่านมา อยู่ในภาวะ "คงที่" จากปกติในแต่ละปีจะปรับขึ้นประมาณ 3-5%
ขณะที่ตลาดบ้านใหม่ ราคาในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19จนถึงปัจจุบัน ไม่ได้ขยับขึ้น ซึ่งแม้เรื่องราคา อาจจะทำให้ ผู้บริโภคมองไปที่บ้านใหม่ แต่ต้องแลกกับการเดินทางที่อาจจะไกลจากแหล่งงาน เพื่อได้ราคาที่เหมาะสม และหากจะมองบ้านใหม่ในเมือง ราคา กลายเป็นอุปสรรค สำหรับกลุ่มคนที่ต้องการอยู่อาศัยจริง เพราะราคาเอื้อมถึงค่อนข้างยาก แม้ในปัจจุบัน คอนโดมิเนียมในเมือง จะมีการทำโปรโมชันส่งเสริมการขายเพื่อระบายสต๊อกออกมา
นางสุมิตรา วงภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอร์ร่า มีเดีย แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด ให้มุมมองอย่างน่าสนใจว่า "จากประสบการณ์พบว่า อัตราการขายบ้านมือสองจะล้อไปกับตัวเลขการขายบ้านมือหนึ่ง ถ้าบ้านมือหนึ่งขึ้น บ้านมือสองขึ้น บ้านมือหนึ่งลด บ้านมือสองก็ลด"
หากมามองในมุมของ DDproperty (ดีดีพร็อพเพอร์ตี้) ที่มียอดผู้เข้าชมและใช้บริการบนเว็บไซต์กว่า 3.5 ล้านรายต่อเดือน ได้หยิบผลสำรวจ DDproperty's Thailand Consumer Sentiment Study ระบุถึงพฤติกรรมการซื้อที่อยู่อาศัยว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ถึง 72% ให้ความสนใจเลือกซื้ออสังหาฯ จากโครงการใหม่ เนื่องจากสิ่งอำนวยความสะดวกมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ และมองเรื่องความใหม่ของโครงการ (58%) ทำเลก็เป็นอีกประเด็นหลักที่ผู้บริโภคมองเช่นกัน ในสัดส่วน (44%)
โดยผู้บริโภคที่สนใจบ้านมือหนึ่ง เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่มากที่สุดคือช่วงอายุ 30-39 ปี อยู่ที่ 33% รองลงมาคือช่วงอายุ 22-29 ปี อยู่ที่ 25% ในขณะที่ผู้บริโภค 1 ใน 4 (28%) พิจารณาเลือกซื้อที่อยู่อาศัยมือสองที่นำกลับมาขายใหม่หรือรีเซล (Resale) โดยเฉพาะในช่วงอายุตั้งแต่ 40-60 ปีขึ้นไปสนใจเลือกซื้ออสังหาฯ มือสองมากกว่า (ช่วงอายุ 40-49 ปี อยู่ที่ 30%, ช่วงอายุ 50-59 ปี อยู่ที่ 18%, ช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป อยู่ที่ 7%)
มากกว่าครึ่ง มองว่าการซื้อบ้านมือสอง ทำให้ได้ที่อยู่อาศัยตรงตามสภาพจริง เพราะได้เห็นโครงการที่ก่อสร้างและตกแต่งแล้วเสร็จก่อนตัดสินใจซื้อ ราคาถูกเป็นประเด็นรองลงมา และการได้ที่อยู่อาศัยในทำเลดีกว่าก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญเช่นกัน (43%) ทั้งนี้ เชื่อได้เลยว่า หากคนเรา "เลือก" ได้ การมองหาบ้านหลังแรก เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา แต่เมื่อสุดท้าย ความจำเป็น และภาวะการเงิน และสิ่งแวดล้อมต่างๆ ก็เป็นองค์ประกอบ ทำให้ ต้อง"เลือก"ในสิ่งที่ดีที่สุด
ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ได้คัดแยก 'choice' จะเลือกแบบไหนดี กับ"บ้านมือหนึ่ง-บ้านมือสอง" สิ่งแรกคือ มองหาที่อยู่อาศัยในทำเลหายาก ในราคาที่รับได้ เป็นอะไรที่ดูเหมือนจะยาก เพราะข้อจำกัดในเรื่องที่ดินในเมืองและโครงการเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน ราคาที่อยู่อาศัยจะไม่ได้ถูกตามใจที่คิด แต่จะแพงกว่าเมื่อเทียบกับโปรดักส์ในลักษณะเดียวกัน
ดังนั้น บ้าน/คอนโดมิเนียมมือสอง จึงถือเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้ผู้บริโภคได้ที่อยู่อาศัยในทำเลทองที่ถูกใจ หรือทำเลที่หาซื้อบ้านมือหนึ่งได้ยากในตอนนี้ การมองหาโครงการใหม่และบ้านมือสอง ต้องพิจารณาเรื่องความคุ้มค่า เพราะการซื้อบ้านใหม่ หรือ หลังที่สอง เพื่อรองรับครอบครัวขยายนั้น สิ่งสำคัญคือ ต้องตระหนักให้มาก เรื่อง ความพร้อม เช่น เงินออม ค่าใช้จ่ายต่างๆ การเดินทาง เพราะ บ้าน เป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่ผูกพันไปในระยะยาว แต่ก็จะมีมูลค่าเพิ่มต่อเนื่อง สร้างเสร็จเรียบร้อย พร้อมย้าย เข้าอยู่ทันที
หากพิจารณาจากข้อนี้ แน่นอนว่าบ้านมือสองจะเป็นตัวเลือกของคนส่วนใหญ่ ต่างจากโครงการใหม่ที่อาจอยู่ระหว่างการก่อสร้าง หรือต้องรอตกแต่งก่อนเข้าอยู่ ซึ่งความเหลื่อมล้ำ ของการเข้าอยู่ทันที และ รอ ก็มีผลต่อค่าใช้จ่าย หากที่อยู่อาศัยเดิมเป็นบ้านเช่า ก็จะมีภาระสองทาง หรือ หากเป็นบ้านที่ได้ขายออกไปแล้ว และรอเข้าอยู่ (บ้านหลังที่สอง/บ้านหลังใหม่) ก็มีผลต่ออารมณ์ต่างกัน เช่นกัน หากผู้ซื้อรายใหม่ (หลังที่เราขายไป) ไม่ปราณีในเรื่องการขนย้าย เราอาจจะต้องขอเช่ากับผู้ซื้อรายใหม่ก็เป็นไปได้ และ หาบ้านในราคาที่เอื้อมถึงได้ง่าย ราคาถือเป็นปัจจัยสำคัญของการซื้อที่อยู่อาศัยไม่น้อย บ้าน/คอนโดมิเนียมมือสองผ่านการใช้งานมาแล้ว
จากผลสำรวจฯ DDproperty's Thailand Consumer Sentiment Study ยังเผยว่า เหตุผลแรกที่ทำให้ 63% ของผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัยมือสอง เนื่องจากมีราคาถูกกว่าโครงการที่เปิดใหม่ ในขณะที่ผู้บริโภคที่มีรายได้ปานกลางและรายได้สูง (51% และ 77% ตามลำดับ) สนใจซื้อบ้านมือสองเพราะอยากได้ที่อยู่อาศัยที่สวยงามตรงตามสภาพจริง ไม่ต้องรอลุ้นหลังโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ ไม่ว่าจะเป็นบ้านมือหนึ่งหรือบ้านมือสอง ล้วนมีข้อดีและข้อจำกัดที่ต่างกันออกไป
อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญของการซื้อบ้านไม่ได้อยู่ที่ความเก่า/ใหม่ของที่อยู่อาศัย แต่สิ่งที่ควรพิจารณาเป็นอันดับแรก เมื่ออยากมีบ้านในฝัน คือ ต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัวได้อย่างครบถ้วน และพิจารณาจากความจำเป็นของผู้อยู่อาศัยเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ จากข้อมูลของ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ระบุว่า ตลาดบ้านมือสองมีขนาดของมูลค่าค่อนข้างสูง โดยมีการเสนอขายเฉลี่ยเดือนละ 113,211 หน่วย เป็นตลาดที่ใหญ่มาก รวมมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนสูงถึง 842,253 ล้านบาท ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์บ้านมือสองมีสัดส่วนเฉลี่ย 10.9% ต่อเดือน เมื่อเทียบกับจำนวนหน่วยที่ประกาศขาย
แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดบ้านมือสองอย่างมาก ดัชนีราคาบ้านมือสองในปีที่ผ่านมา อยู่ในภาวะ "คงที่" จากปกติในแต่ละปีจะปรับขึ้นประมาณ 3-5%
ขณะที่ตลาดบ้านใหม่ ราคาในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19จนถึงปัจจุบัน ไม่ได้ขยับขึ้น ซึ่งแม้เรื่องราคา อาจจะทำให้ ผู้บริโภคมองไปที่บ้านใหม่ แต่ต้องแลกกับการเดินทางที่อาจจะไกลจากแหล่งงาน เพื่อได้ราคาที่เหมาะสม และหากจะมองบ้านใหม่ในเมือง ราคา กลายเป็นอุปสรรค สำหรับกลุ่มคนที่ต้องการอยู่อาศัยจริง เพราะราคาเอื้อมถึงค่อนข้างยาก แม้ในปัจจุบัน คอนโดมิเนียมในเมือง จะมีการทำโปรโมชันส่งเสริมการขายเพื่อระบายสต๊อกออกมา
นางสุมิตรา วงภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอร์ร่า มีเดีย แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด ให้มุมมองอย่างน่าสนใจว่า "จากประสบการณ์พบว่า อัตราการขายบ้านมือสองจะล้อไปกับตัวเลขการขายบ้านมือหนึ่ง ถ้าบ้านมือหนึ่งขึ้น บ้านมือสองขึ้น บ้านมือหนึ่งลด บ้านมือสองก็ลด"
หากมามองในมุมของ DDproperty (ดีดีพร็อพเพอร์ตี้) ที่มียอดผู้เข้าชมและใช้บริการบนเว็บไซต์กว่า 3.5 ล้านรายต่อเดือน ได้หยิบผลสำรวจ DDproperty's Thailand Consumer Sentiment Study ระบุถึงพฤติกรรมการซื้อที่อยู่อาศัยว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ถึง 72% ให้ความสนใจเลือกซื้ออสังหาฯ จากโครงการใหม่ เนื่องจากสิ่งอำนวยความสะดวกมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ และมองเรื่องความใหม่ของโครงการ (58%) ทำเลก็เป็นอีกประเด็นหลักที่ผู้บริโภคมองเช่นกัน ในสัดส่วน (44%)
โดยผู้บริโภคที่สนใจบ้านมือหนึ่ง เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่มากที่สุดคือช่วงอายุ 30-39 ปี อยู่ที่ 33% รองลงมาคือช่วงอายุ 22-29 ปี อยู่ที่ 25% ในขณะที่ผู้บริโภค 1 ใน 4 (28%) พิจารณาเลือกซื้อที่อยู่อาศัยมือสองที่นำกลับมาขายใหม่หรือรีเซล (Resale) โดยเฉพาะในช่วงอายุตั้งแต่ 40-60 ปีขึ้นไปสนใจเลือกซื้ออสังหาฯ มือสองมากกว่า (ช่วงอายุ 40-49 ปี อยู่ที่ 30%, ช่วงอายุ 50-59 ปี อยู่ที่ 18%, ช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป อยู่ที่ 7%)
มากกว่าครึ่ง มองว่าการซื้อบ้านมือสอง ทำให้ได้ที่อยู่อาศัยตรงตามสภาพจริง เพราะได้เห็นโครงการที่ก่อสร้างและตกแต่งแล้วเสร็จก่อนตัดสินใจซื้อ ราคาถูกเป็นประเด็นรองลงมา และการได้ที่อยู่อาศัยในทำเลดีกว่าก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญเช่นกัน (43%) ทั้งนี้ เชื่อได้เลยว่า หากคนเรา "เลือก" ได้ การมองหาบ้านหลังแรก เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา แต่เมื่อสุดท้าย ความจำเป็น และภาวะการเงิน และสิ่งแวดล้อมต่างๆ ก็เป็นองค์ประกอบ ทำให้ ต้อง"เลือก"ในสิ่งที่ดีที่สุด
ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ได้คัดแยก 'choice' จะเลือกแบบไหนดี กับ"บ้านมือหนึ่ง-บ้านมือสอง" สิ่งแรกคือ มองหาที่อยู่อาศัยในทำเลหายาก ในราคาที่รับได้ เป็นอะไรที่ดูเหมือนจะยาก เพราะข้อจำกัดในเรื่องที่ดินในเมืองและโครงการเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน ราคาที่อยู่อาศัยจะไม่ได้ถูกตามใจที่คิด แต่จะแพงกว่าเมื่อเทียบกับโปรดักส์ในลักษณะเดียวกัน
ดังนั้น บ้าน/คอนโดมิเนียมมือสอง จึงถือเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้ผู้บริโภคได้ที่อยู่อาศัยในทำเลทองที่ถูกใจ หรือทำเลที่หาซื้อบ้านมือหนึ่งได้ยากในตอนนี้ การมองหาโครงการใหม่และบ้านมือสอง ต้องพิจารณาเรื่องความคุ้มค่า เพราะการซื้อบ้านใหม่ หรือ หลังที่สอง เพื่อรองรับครอบครัวขยายนั้น สิ่งสำคัญคือ ต้องตระหนักให้มาก เรื่อง ความพร้อม เช่น เงินออม ค่าใช้จ่ายต่างๆ การเดินทาง เพราะ บ้าน เป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่ผูกพันไปในระยะยาว แต่ก็จะมีมูลค่าเพิ่มต่อเนื่อง สร้างเสร็จเรียบร้อย พร้อมย้าย เข้าอยู่ทันที
หากพิจารณาจากข้อนี้ แน่นอนว่าบ้านมือสองจะเป็นตัวเลือกของคนส่วนใหญ่ ต่างจากโครงการใหม่ที่อาจอยู่ระหว่างการก่อสร้าง หรือต้องรอตกแต่งก่อนเข้าอยู่ ซึ่งความเหลื่อมล้ำ ของการเข้าอยู่ทันที และ รอ ก็มีผลต่อค่าใช้จ่าย หากที่อยู่อาศัยเดิมเป็นบ้านเช่า ก็จะมีภาระสองทาง หรือ หากเป็นบ้านที่ได้ขายออกไปแล้ว และรอเข้าอยู่ (บ้านหลังที่สอง/บ้านหลังใหม่) ก็มีผลต่ออารมณ์ต่างกัน เช่นกัน หากผู้ซื้อรายใหม่ (หลังที่เราขายไป) ไม่ปราณีในเรื่องการขนย้าย เราอาจจะต้องขอเช่ากับผู้ซื้อรายใหม่ก็เป็นไปได้ และ หาบ้านในราคาที่เอื้อมถึงได้ง่าย ราคาถือเป็นปัจจัยสำคัญของการซื้อที่อยู่อาศัยไม่น้อย บ้าน/คอนโดมิเนียมมือสองผ่านการใช้งานมาแล้ว
จากผลสำรวจฯ DDproperty's Thailand Consumer Sentiment Study ยังเผยว่า เหตุผลแรกที่ทำให้ 63% ของผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัยมือสอง เนื่องจากมีราคาถูกกว่าโครงการที่เปิดใหม่ ในขณะที่ผู้บริโภคที่มีรายได้ปานกลางและรายได้สูง (51% และ 77% ตามลำดับ) สนใจซื้อบ้านมือสองเพราะอยากได้ที่อยู่อาศัยที่สวยงามตรงตามสภาพจริง ไม่ต้องรอลุ้นหลังโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ ไม่ว่าจะเป็นบ้านมือหนึ่งหรือบ้านมือสอง ล้วนมีข้อดีและข้อจำกัดที่ต่างกันออกไป
อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญของการซื้อบ้านไม่ได้อยู่ที่ความเก่า/ใหม่ของที่อยู่อาศัย แต่สิ่งที่ควรพิจารณาเป็นอันดับแรก เมื่ออยากมีบ้านในฝัน คือ ต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัวได้อย่างครบถ้วน และพิจารณาจากความจำเป็นของผู้อยู่อาศัยเป็นสำคัญ
ข่าวบ้านมือสอง อื่นๆ