พัทยา ดันแผนดิจิทัล5ปี ปั้นศูนย์กลางเศรษฐกิจ อีอีซี
Loading

พัทยา ดันแผนดิจิทัล5ปี ปั้นศูนย์กลางเศรษฐกิจ อีอีซี

วันที่ : 26 มิถุนายน 2563
นายกเมืองพัทยา ให้คำมั่น จะพลิกโฉมเมืองพัทยาหลังวิกฤติโควิด ไปสู่เมืองนานาชาติที่สมบูรณ์
          NEO Pattaya เป็นยุทธศาสตร์ของเมืองพัทยา ที่ต้องการผลักดันให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยวและการลงทุนของโลก โดยสร้าง โอกาสการพัฒนาให้กับประชาชนในเมืองพัทยาทุกวัย รวมทั้งต้องมีสภาพแวดล้อมที่ดีและสามารถรองรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม

          เมืองพัทยา ได้จัดรับฟังความเห็นแผน แม่บทดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศ-การสื่อสาร เมืองพัทยา และปรับปรุงข้อมูลทรัพยากรภูมิสารสนเทศขนาดใหญ่ของเมืองพัทยา 5 ปี  (2564-2568) เพื่อรองรับการผลักดันยุทธศาสตร์ดังกล่าว โดยเฉพาะการรองรับ วิถีชีวิตหลังวิกฤติโควิด-19 ที่จะเน้นการพัฒนา สมาร์ทซิตี้ นำเทคโนโลยีมาขับเคลื่อน

          สนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า เมืองพัทยากำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้า ในทุกมิติ เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลาง ทางเศรษฐกิจ การลงทุน การคมนาคมขนส่งแห่งภาคตะวันออก ตามยุทธศาสตร์ NEO Pattaya โดยขณะนี้เราพร้อมแล้วที่จะนำโรดแมพตามแผนแม่บทเมืองดิจิทัลพัทยา สร้างความเปลี่ยนแปลงในระยะ 5 ปีข้างหน้า มีเป้าหมายไปสู่สมาร์ทซิตี้ ที่ทันสมัยใช้เทคโนโลยีตอบโจทย์วิถีชีวิตยุคใหม่ ทั้งด้านการท่องเที่ยว การทำธุรกิจ และ การพักอาศัย ผสมผสานอย่างลงตัว เช่นเดียวกับเมืองนานาชาติระดับโลก

          โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งจะลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ถึง 1.5 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาและรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) เมื่อแล้วเสร็จช่วง 5 ปีข้างหน้า จะทำให้มีคนไทยและทั่วโลกเข้ามาพัทยาถึง 70 ล้านคน ทั้งนักท่องที่ยว นักธุรกิจ นักลงทุน ทุกระดับ รวมถึงพนักงานและลูกจ้างจะเข้ามา พักอาศัย จึงเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องวางโรดแมพ

          เมืองพัทยายุคใหม่จะยกระดับเทคโนโลยี (Digital Transformation) สร้างความความสะดวกสบายให้ประชาชนผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น บริการภาครัฐ ที่ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การเรียนรู้ตลอดชีวิต เพิ่มโอกาสทำธุรกิจคนรุ่นใหม่ นำระบบดิจิทัลพัฒนาการขนส่ง จราจร ท่องเที่ยว การแพทย์ การวางผังเมือง สิ่งแวดล้อม รวมถึงความสามารถในการแข่งขัน ทำให้พัทยาโดดเด่นเป็นศูนย์กลาง

          "แผนแม่บทดิจิทัลพัทยาที่ประกาศ วิสัยทัศน์วันนี้มีความสำคัญมาก เป็นการพลิกโฉมเมืองพัทยาหลังผ่านวิกฤติโควิด-19 ไปสู่การเป็นเมืองนานาชาติที่สมบูรณ์"

          การดำเนินการดังกล่าวจะนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาบริหารจัดการและให้บริการประชาชน ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันเดินสู่เป้าหมายยุทธศาสตร์ NEO Pattaya เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ดึงดูด การท่องเที่ยวและนักธุรกิจ เป็นเมืองศูนย์กลางแห่ง EEC ได้อย่างแท้จริง"

          แผนแม่บทดิจิทัลฯเป็นความร่วมมือระหว่างเมืองพัทยาและมหาวิทยาลัยบูรพา โดยคณะภูมิสารสนเทศศาสตร์ เน้นการวางแผน ดำเนินการใน 8 กลยุทธ์ ประกอบด้วย

          1.พัฒนาหลักสูตรการจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วยดิจิทัล 2.พัฒนาบุคลากร เมืองพัทยา ครู และนักเรียนสังกัดเมืองพัทยา  ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม 3.พัฒนาบริการ ด้วยนวัตกรรมดิจิทัล 4.พัฒนาแพลตฟอร์มกลาง เมืองพัทยา

          5.พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ 6.จัดทำนโยบายและ แนวทางปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ 7.พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารตามกรอบ "เมืองอัจฉริยะ" 8.พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารตามกรอบความพร้อมเป็น "รัฐบาลดิจิทัล"

          ทั้งนี้ แผนแม่บทดิจิทัลพัทยาช่วง 5 ปีข้างหน้า จะนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศขนาดใหญ่ (Big Data) มาเชื่อมต่อกับทุกระบบการทำงาน พัฒนาแอพพลิเคชั่นเข้าถึงประชาชนทุกระดับ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างน้อย 3 ด้าน คือ

          ด้านเศรษฐกิจ ใช้ระบบ 3 มิติพลิกโฉม การท่องเที่ยวเพิ่มรายได้สู่ท้องถิ่น การติดต่อราชการรวดเร็วโปร่งใส ด้านการอยู่อาศัย มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยระบบกล้องวงจรปิดเชื่อมต่อห้องสั่งการเมืองพัทยา

          ด้านระบบสาธารณสุขนำนวัตกรรมใหม่ เช่น การจองคิวรับบริการไม่ต้องรอนานหรือมีบริการให้คำปรึกษาแบบทางไกล (Telemedicine)

          ด้านการศึกษา ยกระดับเด็กและเยาวชน ด้วยเรียนการสอนโดยใช้สื่อดิจิทัล ความรู้จาก นวัตกรรมอากาศยานไร้คนขับ และสร้างคนรุ่นใหม่

          กฤษนัยน์ เจริญจิตร คณบดีคณะ ภูมิสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ในฐานะหัวหน้าโครงการฯ พร้อมคณะได้นำเสนอ แผนปฏิบัติงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแม่บทดิจิทัลฯ ที่มุ่งเน้นความยั่งยืน ในทุกมิติ แก้ไขปัญหาในภาพรวมของเมืองพัทยา และเกิดประโยชน์ต่อประชาชน ได้แก่

          1.แผนงานจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วยดิจิทัลเพื่อพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ 2.แผนงานพัฒนาศักยภาพบริการภาคธุรกิจและภาคประชาสังคมด้วยนวัตกรรมดิจิทัล 3.แผนงานพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อรองรับวิถีชีวิตประชาชน

          4.แผนงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและ ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และ 5.แผนงาน ส่งเสริมเมืองพัทยาเป็นองค์กรดิจิทัลสมรรถนะ สูงมุ่งสู่เมืองอัจฉริยะและเป็นรัฐบาลดิจิทัล

          เมืองพัทยาในอนาคตจะเป็นดิจิทัลออฟฟิส ลดสำเนา ลดความยุ่งยากสำหรับประชาชน ไม่ต้องมารอคิวนานๆ พัฒนาเทคโนโลยีที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย มีไลน์พัทยาเพื่อสนับสนุนการให้บริการ เช่น จองคิวโรงพยาบาล บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ปัญหาน้ำไฟฟ้า ความปลอดภัย มีตัวกลางช่วยประสานให้ได้รับความสะดวก

          นอกจากนี้ เมื่อประชาชนมีปัญหา โทรแจ้งขอความช่วยเหลือ เช่น น้ำท่วม อุบัติเหตุ อาชญากรรม ฯลฯ จะส่งโดรน ออกไปล่วงหน้าและรายงานกลับมา แบบเรียลไทม์ ก่อนส่งเจ้าหน้าที่ไปจุดเกิดเหตุ จะทำให้นักท่องเที่ยวมีความปลอดภัยในที่สาธารณะ และแก้ปัญหาเรื่องการจราจร เพิ่มความมั่นใจเข้ามาใช้ชีวิตในเมืองพัทยามากขึ้น
 
ข่าวเขตเศรษฐกิจพิเศษ อื่นๆ