ตลาดอสังหา3จว.อีอีซีวูบ
วันที่ : 9 เมษายน 2563
วิกฤตไวัส กระทบตลาดอสังหาฯ EEC วูบ
สารพัดปัจจัยลบรุมกระหน่ำ
มาตรการกระตุ้น'เอาไม่อยู่
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยใน 3 จังหวัด ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา พบว่ามีซัพพลายเพิ่มขึ้นจากปี 2561 ทั้งการขออนุญาตจัดสรรที่ดิน และการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร แต่ในด้านความต้องการซื้อ การโอนกรรมสิทธิ์มีจำนวนลดลงเล็กน้อย แต่มูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2561 แสดงให้เห็นว่าที่อยู่อาศัยที่โอนในปี 2562 มีราคาเฉลี่ยต่อยูนิตสูงกว่าปี 2561 และเป็นที่สังเกตว่า ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลประกาศให้เป็นเมืองการบินภาคตะวันออก มีผู้ประกอบการให้ความสนใจลงทุนพัฒนาโครงการอาคารชุดเพิ่มมากขึ้น
"ในปี 2562 มีการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยในอีอีซี จำนวน 175 โครงการ 21,814 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ทั้งจำนวนโครงการและจำนวนยูนิตที่ 2.9% และ 22.6% ตามลำดับ โดยส่วนใหญ่เป็นทาวน์เฮาส์มากที่สุด รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด โดยจังหวัดที่มีการออกใบอนุญาตจัดสรรมากที่สุดคือ ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา" นายวิชัยกล่าว
นายวิชัยกล่าวว่า สำหรับในปี 2563 ตลาดที่อยู่อาศัยจะมีปัจจัยลบรุมเร้ามากกว่าปัจจัยบวก สาเหตุจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และภาวะภัยแล้งรุนแรงมีผลทำให้เศรษฐกิจของประเทศหดตัว ส่งผลให้มีการเลิกจ้างแรงงานจำนวนมาก และรายได้ของเกษตรกรลดลง กระทบกับกำลังซื้อที่อยู่อาศัยในวงกว้าง แม้ว่าในปีนี้จะมีปัจจัยบวกในด้านอัตราดอกเบี้ยขาลง ราคาน้ำมันลดลง มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลที่มีผลไปถึงสิ้นปี 2563 และมีการผ่อนปรนเกณฑ์แอลทีวี ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ตาม ทั้งนี้ ศูนย์คาดการณ์ว่าในปี 2563 ตลาดที่อยู่อาศัยจะมีการหดตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ทั้งในด้านซัพพลายและความต้องการซื้อ โดยคาดว่าการขออนุญาตจัดสรรที่ดินจะหดตัว 17.8% และการออกใบอนุญาตก่อสร้างคาดว่าจะหดตัว 15.3% เมื่อเทียบกับปี 2562 โดยอาคารชุดจะหดตัวมากกว่าที่อยู่อาศัยแนวราบ ส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยคาดว่าจำนวนยูนิตจะหดตัว 11.9% และมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์จะหดตัว 21.5%
"สำหรับแนวโน้มการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยใน 3 จังหวัดอีอีซี ในปี 2563 คาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 44,657 ยูนิต ลดลง 11.9% จากปี 2562 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ประมาณ 40,191-49,123 ยูนิต และมีมูลค่า 78,443 ล้านบาท ลดลง 21.5% จากปี 2562 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ประมาณ 70,599-86,288 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2562" นายวิชัยกล่าว
มาตรการกระตุ้น'เอาไม่อยู่
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยใน 3 จังหวัด ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา พบว่ามีซัพพลายเพิ่มขึ้นจากปี 2561 ทั้งการขออนุญาตจัดสรรที่ดิน และการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร แต่ในด้านความต้องการซื้อ การโอนกรรมสิทธิ์มีจำนวนลดลงเล็กน้อย แต่มูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2561 แสดงให้เห็นว่าที่อยู่อาศัยที่โอนในปี 2562 มีราคาเฉลี่ยต่อยูนิตสูงกว่าปี 2561 และเป็นที่สังเกตว่า ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลประกาศให้เป็นเมืองการบินภาคตะวันออก มีผู้ประกอบการให้ความสนใจลงทุนพัฒนาโครงการอาคารชุดเพิ่มมากขึ้น
"ในปี 2562 มีการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยในอีอีซี จำนวน 175 โครงการ 21,814 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ทั้งจำนวนโครงการและจำนวนยูนิตที่ 2.9% และ 22.6% ตามลำดับ โดยส่วนใหญ่เป็นทาวน์เฮาส์มากที่สุด รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด โดยจังหวัดที่มีการออกใบอนุญาตจัดสรรมากที่สุดคือ ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา" นายวิชัยกล่าว
นายวิชัยกล่าวว่า สำหรับในปี 2563 ตลาดที่อยู่อาศัยจะมีปัจจัยลบรุมเร้ามากกว่าปัจจัยบวก สาเหตุจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และภาวะภัยแล้งรุนแรงมีผลทำให้เศรษฐกิจของประเทศหดตัว ส่งผลให้มีการเลิกจ้างแรงงานจำนวนมาก และรายได้ของเกษตรกรลดลง กระทบกับกำลังซื้อที่อยู่อาศัยในวงกว้าง แม้ว่าในปีนี้จะมีปัจจัยบวกในด้านอัตราดอกเบี้ยขาลง ราคาน้ำมันลดลง มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลที่มีผลไปถึงสิ้นปี 2563 และมีการผ่อนปรนเกณฑ์แอลทีวี ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ตาม ทั้งนี้ ศูนย์คาดการณ์ว่าในปี 2563 ตลาดที่อยู่อาศัยจะมีการหดตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ทั้งในด้านซัพพลายและความต้องการซื้อ โดยคาดว่าการขออนุญาตจัดสรรที่ดินจะหดตัว 17.8% และการออกใบอนุญาตก่อสร้างคาดว่าจะหดตัว 15.3% เมื่อเทียบกับปี 2562 โดยอาคารชุดจะหดตัวมากกว่าที่อยู่อาศัยแนวราบ ส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยคาดว่าจำนวนยูนิตจะหดตัว 11.9% และมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์จะหดตัว 21.5%
"สำหรับแนวโน้มการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยใน 3 จังหวัดอีอีซี ในปี 2563 คาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 44,657 ยูนิต ลดลง 11.9% จากปี 2562 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ประมาณ 40,191-49,123 ยูนิต และมีมูลค่า 78,443 ล้านบาท ลดลง 21.5% จากปี 2562 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ประมาณ 70,599-86,288 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2562" นายวิชัยกล่าว
ข่าวเขตเศรษฐกิจพิเศษ อื่นๆ