ดาร์วิดพร๊อพเพอร์ตี้ เปิดแผนรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสอง พร้อมเผยสถาบันการเงินต่างๆ มอบสัญญาแต่งตั้งนายหน้าขายทรัพย์ NPA ทั่วประเทศกว่า 1,000 ยูนิต มั่นใจทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยทำเลดีราคาถูกยังขายได้ เร่งปรับนโยบายองค์กรรับตลาดปี 63
            นางดรุณี รุ่งเรืองผล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาร์วิด พร๊อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส จำกัด เปิดเผยว่า ความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์มือสองยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้บ้านมือสองเป็นที่อยู่อาศัยที่มีความโดดเด่นและแตกต่างจากบ้านใหม่อย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาขายที่ถูกกว่าบ้านใหม่ประมาณ 20-40% นอกจากนี้แล้วยังตั้งอยู่บนทำเลที่มีความได้เปรียบกว่าบ้านใหม่ เช่น ตั้งอยู่ใกล้แหล่งชุมชนและมีสาธารณูปโภคต่างๆ ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ฯลฯ จึงทำให้ผู้บริโภคให้ความสนใจบ้านมือสองอยู่ตลอดเวลา แต่ที่ผ่านมาตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสองยังไม่ได้รับการกระตุ้นจากภาครัฐอย่างจริงจัง ทั้งที่เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีความต้องการซื้อสูง หากมีปัจจัยที่สามารถหนุนกำลังซื้อและสร้างแรงจูงใจด้านต่างๆ เชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสองจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้เป็นอย่างดี
            "ที่ผ่านมาพบว่ามีทั้งลูกค้าที่ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยและซื้อเพื่อการลงทุน โดยอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นประเภทอาคาร โรงงานอุตสาหกรรม และที่ดินเปล่า ซึ่งส่วนใหญ่กระจายอยู่ในหัวเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญ ๆ ของประเทศ ส่วนอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยนั้น ทรัพย์ NPA ประเภททาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวทำเลชานเมืองได้รับความสนใจมากที่สุด เนื่องจากสถาบันการเงินส่วนใหญ่ได้กำหนดราคาขายจากบริษัทประเมินราคาที่ไม่สูงเหมือนบ้านมือสองทั่วไป ที่สำคัญอยู่ในทำเลใกล้เมืองและเอื้อต่อการอยู่อาศัย" นางดรุณี กล่าวและเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาบริษัท ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทบริหารสินทรัพย์และสถาบันการเงินหลายแห่ง เพื่อมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการขายทรัพย์ NPA ทั่วประเทศกว่า 1,000 รายการมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
            บริษัทได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรที่เป็นสมาชิกของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย เพื่อทำการตลาดและขายอสังหาริมทรัพย์มือสองที่เจ้าของฝากขาย ซึ่งส่วนใหญ่มีจุดเด่นและข้อจำกัดในการขายหลายปัจจัย โดยเฉพาะเรื่องราคาที่ถือว่าเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อ แต่การขายทรัพย์ NPA มีความแตกต่างในขณะที่ประชาชนและนักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสนใจสูง เนื่องจากเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพในการลงทุน จึงทำให้บริษัทต้องปรับนโยบายการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะการสร้างและพัฒนาบุคลากร รวมทั้งเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการขายและสอดรับกับแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของทรัพย์มือสองที่คาดว่าในปีหน้าสถาบันการเงินจะนำทรัพย์ NPA ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าในปี 2563 บริษัทจะสามารถขยายตลาดและเพิ่มยอดขายอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ ไม่น้อยกว่า 5-10%