จ่อลงนาม3โครงการอีอีซี มาบตาพุด-อู่ตะเภา-รถไฟ
วันที่ : 1 ตุลาคม 2562
น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือกพอ. ได้รับทราบความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 มูลค่าการลงทุนกว่า 5.4 หมื่นล้านบาท
น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือกพอ. ได้รับทราบความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 มูลค่าการลงทุนกว่า 5.4 หมื่นล้านบาท โดยในวันที่ 1 ต.ค.นี้ กนอ.จะเสนอที่ประชุมครม.พิจารณาเห็นชอบให้ขยายเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม เนื่อง จากมีการถมทะเลเพิ่มในระยะแรกประมาณ 1,000 ไร่ หากผ่านการเห็นชอบจาก ครม.เป็นที่เรียบร้อย ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน กนอ.จะจัดพิธีลงนามร่วมกับกลุ่มกิจการร่วมค้ากัลฟ์-พีทีที แทงค์ ซึ่งเป็นเอกชนที่ชนะการประมูลโครงการดังกล่าวทันที
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ กพอ. กล่าวว่า นอกจากโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 จะสามารถลงนามได้ในเดือนต.ค.แล้ว ยังมีอีก 2 โครงการที่สามารถลงนามได้ในเดือนต.ค.นี้ โดยโครงการแรก คือ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกจะพิจารณาเอกสารทางเทคนิคให้จบภายในวันที่ 9 ต.ค.นี้ จากนั้นจึงเปิดซองการเงิน เพื่อหาผู้เข้าเจรจาสัญญา คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.นี้ และจะลงนามทันที
ขณะที่โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ล่าสุด กพอ.ได้รับทราบการวางกำหนดการส่งมอบที่ดิน โดยส่งมอบที่ดิน 72% ภายใน 1 ปี หลังลงนามในสัญญาร่วมลงทุน เพื่อให้เอกชนเริ่มก่อสร้างโครงการและให้กระทรวงพลังงานเร่งรื้อย้ายท่อก๊าซยาว 12 กม. ยกเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง 16 จุด ส่วนมหาดไทยต้องเร่งย้ายท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ 4 จุด ย้ายเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงยาว 14 กม. ยกเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง 39 จุดย้ายท่อประปาขนาดใหญ่ยาว 2 กม. และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะใช้สิทธิเร่งรัดให้ย้ายท่อน้ำมันของบริษัทเอกชน ระยะทาง 44 กม. รวมทั้งเร่งรัดออก พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดินด้วย
นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะเชิญเอกชนมาคุยกันอีกครั้งถึงเรื่องการส่งมอบที่ดิน ซึ่งตอนนี้ดูแล้วไม่ได้เป็นปัญหา สามารถทำได้ตามแผนที่ตกลงไว้ โดยมีพื้นที่ประมาณ 3,500 ไร่ ระยะทาง 220 กิโลเมตร ที่จะอยู่ในพื้นที่ รฟท. และมีพื้นที่อีก 800 ไร่ที่ต้องเวนคืน
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ กพอ. กล่าวว่า นอกจากโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 จะสามารถลงนามได้ในเดือนต.ค.แล้ว ยังมีอีก 2 โครงการที่สามารถลงนามได้ในเดือนต.ค.นี้ โดยโครงการแรก คือ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกจะพิจารณาเอกสารทางเทคนิคให้จบภายในวันที่ 9 ต.ค.นี้ จากนั้นจึงเปิดซองการเงิน เพื่อหาผู้เข้าเจรจาสัญญา คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.นี้ และจะลงนามทันที
ขณะที่โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ล่าสุด กพอ.ได้รับทราบการวางกำหนดการส่งมอบที่ดิน โดยส่งมอบที่ดิน 72% ภายใน 1 ปี หลังลงนามในสัญญาร่วมลงทุน เพื่อให้เอกชนเริ่มก่อสร้างโครงการและให้กระทรวงพลังงานเร่งรื้อย้ายท่อก๊าซยาว 12 กม. ยกเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง 16 จุด ส่วนมหาดไทยต้องเร่งย้ายท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ 4 จุด ย้ายเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงยาว 14 กม. ยกเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง 39 จุดย้ายท่อประปาขนาดใหญ่ยาว 2 กม. และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะใช้สิทธิเร่งรัดให้ย้ายท่อน้ำมันของบริษัทเอกชน ระยะทาง 44 กม. รวมทั้งเร่งรัดออก พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดินด้วย
นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะเชิญเอกชนมาคุยกันอีกครั้งถึงเรื่องการส่งมอบที่ดิน ซึ่งตอนนี้ดูแล้วไม่ได้เป็นปัญหา สามารถทำได้ตามแผนที่ตกลงไว้ โดยมีพื้นที่ประมาณ 3,500 ไร่ ระยะทาง 220 กิโลเมตร ที่จะอยู่ในพื้นที่ รฟท. และมีพื้นที่อีก 800 ไร่ที่ต้องเวนคืน
ข่าวเขตเศรษฐกิจพิเศษ อื่นๆ