CCPยิ้มครึ่งปีหลังยอดคอนกรีตพุ่ง
Loading

CCPยิ้มครึ่งปีหลังยอดคอนกรีตพุ่ง

วันที่ : 17 สิงหาคม 2562
ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรีเล็งตลาดคอนกรีตครึ่งหลังปี 62 ยังขยายตัวได้ดี หลังภาครัฐ เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่อง พร้อมโชว์ผลงานครึ่งปีแรกมีราย ได้รวม 767.46 ล้านบาท โต 3.07%
          ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรีเล็งตลาดคอนกรีตครึ่งหลังปี 62 ยังขยายตัวได้ดี หลังภาครัฐ เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่อง พร้อมโชว์ผลงานครึ่งปีแรกมีราย ได้รวม 767.46 ล้านบาท โต 3.07%

          นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี (CCP) เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์คอน กรีตในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ว่า มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับ สนุนจากการลงทุนในโครงสร้างพื้น ฐานในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) นิคมอุตสาห กรรม ทยอยดำเนินงานก่อสร้าง อีกทั้งยังมีโครงการของหน่วยงาน ภาครัฐในพื้นที่ต่างๆ ที่มีการก่อสร้าง อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างผลิตภัณฑ์คอนกรีตปรับตัวดีขึ้นขณะที่การลงทุนภาคเอกชน ผู้ประ กอบการอสังหาริมทรัพย์ยังทรง ตัว

          ในส่วนของแผนการดำ เนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าใหม่ในกลุ่มคอนกรีตสำเร็จรูปอย่างต่อเนื่อง รองรับงานโครงสร้างพื้นฐานและเอกชนได้อย่างหลากหลาย

          สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2562 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 365.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.88% บริษัทมีผล ขาดทุนสุทธิ 4.83 ล้านบาท ขาด ทุนลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 12.01 ล้านบาท หรือขาดทุนลดลง 59.78% ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 767.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 744.57 ล้านบาท จำนวน 22.89 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.07% และมีกำไรสุทธิ 21.75 ล้านบาท ดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 8.46 ล้านบาท

          ปัจจุบันบริษัทมีแบล็กล็อกประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน แบ่งเป็นการรับรู้รายได้ภายในปีนี้ 60% โดยบริษัทจะทยอยประมูลงานเข้ามาเพิ่มอีกในอนาคต เพื่อรักษาระดับมูลค่างานในมือ (Backlog) ทุกๆ ขณะไว้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถรักษาการเติบโตของรายได้ตามเป้าหมายปีนี้ที่วางไว้ 2,500 ล้านบาท สัดส่วนรายได้มาจากงานภาครัฐ 80% และภาคเอกชน 20%