บีโอไอให้สิทธิ์ถึงสิ้นปี-เผยตัวเลขพุ่งสูง6.8แสนล

          อีอีซีหารือบีโอไอขยายยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ ที่กำลังจะหมดลงในปลายปีนี้ออกไปอีก หวังกระตุ้นลงทุนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่ม 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เผยตัวเลขขอส่งเสริมลงทุนในปี 2561 ทะลุ 6.8 แสนล้าน เพิ่มขึ้นถึง 137% ด้านเอกชน ชูมือสนับสนุนเต็มที่

          นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงกรณี นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เตรียมหารือบีโอไอ พิจารณาต่ออายุมาตรการส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ให้นักลงทุนยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ออกไปจากกำหนดเดิมที่เริ่มตั้งแต่เดือนม.ค. 2561-30 ธ.ค. 2562

          ระบุว่าสัปดาห์นี้ผู้บริหารอีอีซีมีกำหนดการหารือ ต่ออายุมาตรการส่งเสริมการลงทุนในอีอีซีแบบมีกรอบเวลา เพื่อให้เกิดแรงกระตุ้นต่อการตัดสินใจของนักลงทุน โดยจะปรับปรุงมาตรการส่งเสริมให้มีความเหมาะสม มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย

          ส่วนรอบ 3 เดือนแรกของปี 2562 (ม.ค.-มี.ค.) มีมูลค่าขอรับการส่งเสริมการลงทุน 75,054 ล้านบาท ลดลง 55% เนื่องจากเป็นช่วงต้นปีนักลงทุนยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ แต่ถ้ามองเป็นรายจังหวัดจะเห็นการเพิ่มขึ้นอย่าง โดดเด่นของระยอง ที่มีมูลค่า 17,803 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 250% ฉะเชิงเทรา 4,850 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 140% ขณะที่ จ.ชลบุรี มีมูลค่า 52,401 ล้านบาท ลดลง 67%

          ด้านน.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น ผู้ดำเนินธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และคลังสินค้าขนาดใหญ่ในอีอีซี กล่าวว่ามาตรการส่งเสริมการลงทุนในอีอีซี ทำให้ไทยกลับมาเป็นผู้นำโดดเด่นในอาเซียน และเป็นแรงกระตุ้นให้อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาลงทุนมากขึ้น

          นายชัยพล พรพิบูลย์ ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะกล่าวว่า การต่ออายุมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซีครั้งใหม่ ควรปรับปรุงขอบเขตขยายการให้สิทธิประโยชน์ครอบคลุมไปถึงกิจการสวนอุตสาหกรรมด้วย รวมถึงให้สิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนขยายไปในจังหวัดใกล้เคียงอีอีซี โดยเฉพาะในจ.ปราจีนบุรี เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มี นิคมฯ และสวนอุตสาหกรรมอยู่หลายแห่ง