คณิศ มั่นใจ อีอีซี เดินหน้าต่อเนื่อง
วันที่ : 24 มิถุนายน 2562
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่า การดำเนินงานของโครงการพัฒนาพื้นที่พิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลใหม่ว่ามีความมั่นใจว่าโครงการต่างๆในอีอีซีจะสามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง เพราะในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ยังคงมีผู้ที่มีความเข้าใจถึงความสำคัญและร่วมผลักดันโครงการอีอีซีมาตั้งแต่เริ่มต้น โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่จะยังคงดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.)
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่า การดำเนินงานของโครงการพัฒนาพื้นที่พิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลใหม่ว่ามีความมั่นใจว่าโครงการต่างๆในอีอีซีจะสามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง เพราะในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ยังคงมีผู้ที่มีความเข้าใจถึงความสำคัญและร่วมผลักดันโครงการอีอีซีมาตั้งแต่เริ่มต้น โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่จะยังคงดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.)
รวมทั้งมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพปชร. ซึ่งคนเหล่านี้มีความเข้าใจความสำคัญของโครงการอีอีซีในเชิงลึกเชื่อว่าจะสามารถผลักดันการทำงานต่อไปได้และมั่นใจว่าการขอส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซีในปี 2562 จะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 300,000 ล้านบาท โดยหลังจากนี้สกพอ.วางแผนจะไปชักจูงการลงทุนจากญี่ปุ่นจีนและประเทศต่างๆ ในยุโรปให้เข้ามาลงทุนในอีอีซี
นายคณิศ กล่าวด้วยว่าในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการกพอ.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานโดยมีวาระสำคัญคือการพิจารณาร่างสัญญาการร่วมลงทุนระหว่างเอกชนกับรัฐในโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ภายหลังจากโครงการนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วสำนักงานอัยการสูงสุดได้ดำเนินการร่างสัญญาเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากคณะกรรมการกพอ.เห็นชอบในร่างสัญญาก็จะเสนอให้ที่ประชุมครม.เห็นชอบจากนั้นการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการจะลงนามในสัญญาร่วมกับเอกชนต่อไปส่วนของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบินที่อยู่ระหว่างรอผลการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ซึ่งจะเสนอรายงาน EIA ให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติจะมีการประชุม ในวันที่ 24 มิ.ย. เช่นกัน
รวมทั้งมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพปชร. ซึ่งคนเหล่านี้มีความเข้าใจความสำคัญของโครงการอีอีซีในเชิงลึกเชื่อว่าจะสามารถผลักดันการทำงานต่อไปได้และมั่นใจว่าการขอส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซีในปี 2562 จะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 300,000 ล้านบาท โดยหลังจากนี้สกพอ.วางแผนจะไปชักจูงการลงทุนจากญี่ปุ่นจีนและประเทศต่างๆ ในยุโรปให้เข้ามาลงทุนในอีอีซี
นายคณิศ กล่าวด้วยว่าในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการกพอ.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานโดยมีวาระสำคัญคือการพิจารณาร่างสัญญาการร่วมลงทุนระหว่างเอกชนกับรัฐในโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ภายหลังจากโครงการนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วสำนักงานอัยการสูงสุดได้ดำเนินการร่างสัญญาเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากคณะกรรมการกพอ.เห็นชอบในร่างสัญญาก็จะเสนอให้ที่ประชุมครม.เห็นชอบจากนั้นการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการจะลงนามในสัญญาร่วมกับเอกชนต่อไปส่วนของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบินที่อยู่ระหว่างรอผลการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ซึ่งจะเสนอรายงาน EIA ให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติจะมีการประชุม ในวันที่ 24 มิ.ย. เช่นกัน
ข่าวเขตเศรษฐกิจพิเศษ อื่นๆ