สมคิด หนุนนักธุรกิจกวางตุ้ง เร่งการค้า-ลุยลงทุน อีอีซี
วันที่ : 11 มิถุนายน 2562
เลขาธิการพรรค คอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลกวางตุ้งหารือ "ประยุทธ์" พร้อมสานต่อความร่วมมือเศรษฐกิจ-การลงทุนในไทย พานักธุรกิจกว่า 200 บริษัทหาลู่ทางการลงทุนไทย ตั้งเป้ามูลค่าการค้าสองประเทศให้ได้ 1.4 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2564 มั่นใจบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของกวางตุ้งปักหลักลงทุนอีอีซี
เลขาธิการพรรค คอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลกวางตุ้งหารือ "ประยุทธ์" พร้อมสานต่อความร่วมมือเศรษฐกิจ-การลงทุนในไทย พานักธุรกิจกว่า 200 บริษัทหาลู่ทางการลงทุนไทย ตั้งเป้ามูลค่าการค้าสองประเทศให้ได้ 1.4 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2564 มั่นใจบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของกวางตุ้งปักหลักลงทุนอีอีซี
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังนำนายหลี่ ซี สมาชิกกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีนและเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลกวางตุ้ง เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีเนื่องในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า พร้อมด้วยนักธุรกิจชั้นนำจากมณฑลกวางตุ้ง กว่า 200 ราย
โดยมณฑลกวางตุ้งถือว่ามีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่และมีระดับการพัฒนาที่สูงที่สุด มีจุดแข็งด้านการค้า การลุงทน อุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นวัตกรรม ตลอดจนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมทั้งยังเป็นตลาด ส่งออกที่สำคัญของไทยโดยการส่งสินค้าไปยังประเทศจีนกว่า 30%เป็นการส่ง สินค้าจากไทยไปยังกวางตุ้ง รวมทั้งมี บริษัทขนาดใหญ่ที่เป็นดาวรุ่งของโลกหรือ เรียกว่า "ยูนิคอร์น" เป็นจำนวนมาก เช่น บริษัทหัวเว่ย บริษัทเท็นเซนต์ ซึ่งเป็น บริษัทผู้นำในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลก
ทั้งนี้ การที่นักธุรกิจจำนวนมากจากกวางตุ้งมาเยือนประเทศไทยถือว่าให้ความสำคัญกับประเทศไทยมากและเป็นการ เดินหน้าตามนโยบายของจีนที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่เกรตเตอร์เบย์แอร์เรีย (Greater bay area: GBA) ซึ่งประกอบไปด้วยฮ่องกง กวางตุ้งและมาเก๊า
ทำหน้าที่เป็นหัวหอกในการเชื่อมโยง เศรษฐกิจระหว่างเส้นทางสายไหมใหม่ (One belt one road) กับอาเซียน ซึ่งเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทย ที่บริษัทขนาดใหญ่ที่เข้ามาร่วมสัมมนา ทางธุรกิจในไทยและไปดูโอกาสในการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มั่นใจว่าบริษัทต่างๆจะตัดสินใจเข้ามาลงทุนเพื่อใช้เป็นฐานในการผลิตสินค้าและส่งไปยังอินโดนีเซีย เวียดนาม และอินเดีย ได้ด้วย
"เขาเรียนกับท่านนายกฯ เลยว่าให้ ความสำคัญกับเมืองไทยมากและต้องการ ให้เกิดความสัมพันธ์ เรื่องของการค้า เทคโนโลยีและการลงทุน รวมทั้งการ ท่องเที่ยว ซึ่งไม่ว่าการเมืองจะเป็น อย่างไรเขาก็ยืนอยู่ข้างเราเสมอ และ เมื่อได้นายกรัฐมนตรีคนเดิมก็ทำให้เกิดความมั่นใจได้ว่าจะเกิดความต่อเนื่องในเรื่องนโยบายและความสัมพันธ์ที่มีความต่อเนื่องไป"
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะผลักดันความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ ทั้งด้านการค้าไทย-กวางตุ้ง ที่คิดเป็นประมาณ 30% ของมูลค่าการค้าไทย-จีน โดยการค้าไทยและจีนมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกตามเป้าหมายการค้าที่ไทยกับจีนตั้งเป้าหมายร่วมกันไว้ที่ 1.4 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2564
"ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนแนวความคิดเกี่ยวกับความท้าทายของโลกปัจจุบัน ซึ่งทำให้เกิดปัญหาการค้าระหว่าง จีนกับสหรัฐ ซึ่งนายหลี่ ซี เชื่อว่าปัญหา จะคลี่คลายไปด้วยดี และจีนพร้อมที่ จะเปิดประตูการเจรจากับสหรัฐ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีขอให้ฝ่ายจีนคำนึงถึง ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศในภูมิภาคด้วย" พล.ท.วีรชนกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากำหนดการเดินทาง มาเยือนประเทศไทยของนายหลี่ ซี และนักธุรกิจกวางตุ้ง 200 คนมาเยือนไทย ระหว่างวันที่ 9 มิ.ย.-11 มิ.ย.2562 โดยในวันที่ 9 มิ.ย.ได้เข้าเยี่ยมชมบริษัท กว๋างเขิ่น (ยางพารา) และบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัดและบริษัท หัวเว่ยวันที่ 10 มิ.ย.เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีหลังจากนั้น คณะนักธุรกิจกวางตุ้งเดินทางไปเยี่ยมชมพื้นที่อีอีซี และวันอังคารที่ 11 มิ.ย.เข้าร่วมงานสัมมนา China (Guangdong) -Thailand Economic and Trade Cooperation Conference และเดินทาง กลับกวางตุ้งในช่วงเย็น
สำหรับข้อมูลด้านเศรษฐกิจและความร่วมมือระหว่างมณฑลกวางตุ้งและไทย ณ ปี 2561 เป็นมณฑลที่มีจำนวนประชากรและมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในจีนติดต่อกัน 30 ปีมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับไทยอย่างยาวนาน ทั้งด้านการค้าโดยมีมูลค่าทางการค้าระหว่างกัน 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์การลงทุนภาคเอกชนไทยลงทุนในกวางตุ้ง 650 ล้านดอลลาร์ ภาคเอกชนกวางตุ้งลงทุนในไทย 573 ล้านดอลลาร์ ด้านการท่องเที่ยวนักท่องเที่ยว กวางตุ้งมาไทย1.8ล้านคน มีเที่ยวบินระหว่างไทย-กวางตุ้ง 56-60 เที่ยวต่อวัน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังนำนายหลี่ ซี สมาชิกกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีนและเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลกวางตุ้ง เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีเนื่องในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า พร้อมด้วยนักธุรกิจชั้นนำจากมณฑลกวางตุ้ง กว่า 200 ราย
โดยมณฑลกวางตุ้งถือว่ามีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่และมีระดับการพัฒนาที่สูงที่สุด มีจุดแข็งด้านการค้า การลุงทน อุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นวัตกรรม ตลอดจนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมทั้งยังเป็นตลาด ส่งออกที่สำคัญของไทยโดยการส่งสินค้าไปยังประเทศจีนกว่า 30%เป็นการส่ง สินค้าจากไทยไปยังกวางตุ้ง รวมทั้งมี บริษัทขนาดใหญ่ที่เป็นดาวรุ่งของโลกหรือ เรียกว่า "ยูนิคอร์น" เป็นจำนวนมาก เช่น บริษัทหัวเว่ย บริษัทเท็นเซนต์ ซึ่งเป็น บริษัทผู้นำในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลก
ทั้งนี้ การที่นักธุรกิจจำนวนมากจากกวางตุ้งมาเยือนประเทศไทยถือว่าให้ความสำคัญกับประเทศไทยมากและเป็นการ เดินหน้าตามนโยบายของจีนที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่เกรตเตอร์เบย์แอร์เรีย (Greater bay area: GBA) ซึ่งประกอบไปด้วยฮ่องกง กวางตุ้งและมาเก๊า
ทำหน้าที่เป็นหัวหอกในการเชื่อมโยง เศรษฐกิจระหว่างเส้นทางสายไหมใหม่ (One belt one road) กับอาเซียน ซึ่งเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทย ที่บริษัทขนาดใหญ่ที่เข้ามาร่วมสัมมนา ทางธุรกิจในไทยและไปดูโอกาสในการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มั่นใจว่าบริษัทต่างๆจะตัดสินใจเข้ามาลงทุนเพื่อใช้เป็นฐานในการผลิตสินค้าและส่งไปยังอินโดนีเซีย เวียดนาม และอินเดีย ได้ด้วย
"เขาเรียนกับท่านนายกฯ เลยว่าให้ ความสำคัญกับเมืองไทยมากและต้องการ ให้เกิดความสัมพันธ์ เรื่องของการค้า เทคโนโลยีและการลงทุน รวมทั้งการ ท่องเที่ยว ซึ่งไม่ว่าการเมืองจะเป็น อย่างไรเขาก็ยืนอยู่ข้างเราเสมอ และ เมื่อได้นายกรัฐมนตรีคนเดิมก็ทำให้เกิดความมั่นใจได้ว่าจะเกิดความต่อเนื่องในเรื่องนโยบายและความสัมพันธ์ที่มีความต่อเนื่องไป"
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะผลักดันความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ ทั้งด้านการค้าไทย-กวางตุ้ง ที่คิดเป็นประมาณ 30% ของมูลค่าการค้าไทย-จีน โดยการค้าไทยและจีนมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกตามเป้าหมายการค้าที่ไทยกับจีนตั้งเป้าหมายร่วมกันไว้ที่ 1.4 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2564
"ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนแนวความคิดเกี่ยวกับความท้าทายของโลกปัจจุบัน ซึ่งทำให้เกิดปัญหาการค้าระหว่าง จีนกับสหรัฐ ซึ่งนายหลี่ ซี เชื่อว่าปัญหา จะคลี่คลายไปด้วยดี และจีนพร้อมที่ จะเปิดประตูการเจรจากับสหรัฐ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีขอให้ฝ่ายจีนคำนึงถึง ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศในภูมิภาคด้วย" พล.ท.วีรชนกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากำหนดการเดินทาง มาเยือนประเทศไทยของนายหลี่ ซี และนักธุรกิจกวางตุ้ง 200 คนมาเยือนไทย ระหว่างวันที่ 9 มิ.ย.-11 มิ.ย.2562 โดยในวันที่ 9 มิ.ย.ได้เข้าเยี่ยมชมบริษัท กว๋างเขิ่น (ยางพารา) และบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัดและบริษัท หัวเว่ยวันที่ 10 มิ.ย.เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีหลังจากนั้น คณะนักธุรกิจกวางตุ้งเดินทางไปเยี่ยมชมพื้นที่อีอีซี และวันอังคารที่ 11 มิ.ย.เข้าร่วมงานสัมมนา China (Guangdong) -Thailand Economic and Trade Cooperation Conference และเดินทาง กลับกวางตุ้งในช่วงเย็น
สำหรับข้อมูลด้านเศรษฐกิจและความร่วมมือระหว่างมณฑลกวางตุ้งและไทย ณ ปี 2561 เป็นมณฑลที่มีจำนวนประชากรและมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในจีนติดต่อกัน 30 ปีมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับไทยอย่างยาวนาน ทั้งด้านการค้าโดยมีมูลค่าทางการค้าระหว่างกัน 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์การลงทุนภาคเอกชนไทยลงทุนในกวางตุ้ง 650 ล้านดอลลาร์ ภาคเอกชนกวางตุ้งลงทุนในไทย 573 ล้านดอลลาร์ ด้านการท่องเที่ยวนักท่องเที่ยว กวางตุ้งมาไทย1.8ล้านคน มีเที่ยวบินระหว่างไทย-กวางตุ้ง 56-60 เที่ยวต่อวัน
ข่าวเขตเศรษฐกิจพิเศษ อื่นๆ