คอลัมน์ กระจกไร้เงา: ตลาดแนวราบยังร้อนแรง
วันที่ : 7 พฤษภาคม 2562
ในปี 2562 นี้หลายๆ คนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย เรามาอัพเดตถึงสถานการณ์ที่อยู่อาศัยในช่วงไตรมาสแรกกันดีกว่า ว่าในปีนี้เทรนด์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะมุ่งเน้นไปรูปแบบไหนกันบ้าง
ศรยุทธ เทียนสี
ในปี 2562 นี้หลายๆ คนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย เรามาอัพเดตถึงสถานการณ์ที่อยู่อาศัยในช่วงไตรมาสแรกกันดีกว่า ว่าในปีนี้เทรนด์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะมุ่งเน้นไปรูปแบบไหนกันบ้าง ซึ่งจากผลสำรวจของ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้ระบุว่า ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 ที่ผ่านมาตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่ชะลอตัวในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้า โดยมีการเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขายก่อนมาตรการ LTV คาดการณ์ว่าทิศทางที่อยู่อาศัยแนวราบในปี 2562 จะยังได้รับการตอบรับที่ดีจากความต้องการของผู้บริโภค
และจากการสำรวจโดยฝ่ายวิจัยและพัฒนาของบริษัทพบว่าในช่วงครึ่งหลังปี 2561 ตลาดแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์ เฮาส์มีการเติบโตอย่างน่าสนใจ อุปสงค์และอุปทานเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน โดยตลาดบ้านเดี่ยวมีอุปทานเสนอขายเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้มีอุปทานรวมอยู่ที่ราว 17,400 ยูนิต ในจำนวนนี้มีอุปทานใหม่เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า หรือประมาณ 7,300 ยูนิต
โดยมีโครงการเก่าที่ขยายเฟสก่อสร้าง และมีอุปทานของโครงการใหม่ที่เปิดขายโดยเกิดจากการที่ผู้ประกอบการต้องการกระตุ้นลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อก่อนการบังคับใช้เกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในเดือนเมษายน ซึ่งมีอุปสงค์ให้การตอบรับไป 7,700 ยูนิต หรือคิดเป็นยอดขาย 44% โดยอุปสงค์รวมในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 เพิ่มขึ้น 46% ส่วนตลาดทาวน์เฮาส์ พบอุปทานเสนอขายเพิ่มขึ้น 21% มาอยู่ที่ประมาณ 36,200 ยูนิต สำหรับอุปทานใหม่เพิ่มขึ้น 24% หรือคิดเป็น 16,000 ยูนิต โดยอุปสงค์ให้การตอบรับ 17,200 ยูนิต หรือคิดเป็นอัตราขายได้ 47% ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ อย่างเช่น บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) ปีนี้มีแผนในการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ โกลเด้น นีโอ 6 โครงการมูลค่ารวมกว่า 7,000 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2 นี้มีแผนจะเปิดตัวโครงการแรกในทำเลแจ้งวัฒนะ-เมืองทองธานี ส่วนไตรมาส 3 เปิด 2 โครงการ และไตรมาส 4 อีก 4 โครงการ ซึ่งปัจจุบันโครงการภายใต้แบรนด์โกลเด้น นีโอ พร้อมกับนวัตกรรมบ้านนีโอ โฮม รวมทั้งสิ้น 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 6,514 ล้านบาท
สำหรับนวัตกรรมบ้านนีโอ โฮม ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด "สวย" ด้วยแบบบ้านใหม่ทั้งภายในและภายนอก สไตล์ยุโรป "ครบ" ด้วยฟังก์ชันเพื่อการอยู่อาศัยที่ครบครัน "คุ้ม" ด้วยบรรยากาศเพื่อความสุขของการอยู่อาศัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของครอบครัว และ "ใกล้เมือง" ซึ่งเป็นการพัฒนาบ้านที่เน้นในทำเลใกล้เมือง เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วนหรือรถไฟฟ้า ปัจจุบันที่ดินทำเลใกล้เมืองมีราคาสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้นีโอ โฮม เป็นบ้านที่รองรับความต้องของผู้บริโภคที่ต้องการบ้านใกล้เมืองในราคาที่จับต้องได้
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ามียอดขายภายใต้แบรนด์โครงการนีโอ โฮม อยู่ที่ 5,900 ล้านบาท เป้ารับรู้รายได้ที่ 3,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่ผ่านมาจำนวน 1,743 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 106% โดยในปัจจุบันบริษัทมียอดรับรู้รายได้แล้ว กว่า 33% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งมั่นใจว่าในปีนี้จะสามารถทำยอดขายและรับรู้รายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ด้านยักษ์ใหญ่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ อย่าง บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายจะมียอดขายโดยมีสัดส่วนจากโครงการแนวราบ 70% และโครงการคอนโดมิเนียม 30% และจะให้ความสำคัญกับกลุ่มบ้านระดับบน ซึ่งมาตรการควบคุมสินเชื่อบ้านไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อบ้านกลุ่มนี้ และเน้นบ้านแบบสั่งสร้าง เพื่อให้ลูกค้ามีเวลาผ่อนดาวน์ก่อนโอน 6-7 เดือน นอกจากนี้บริษัทยังทำยอดขายเพิ่มขึ้นจากโครงการโซนตะวันออก สุขุมวิท 77-สุวรรณภูมิ, กรุงเทพกรีฑา และรามคำแหง
โดยในไตรมาส 1 ปี 2562 บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 4 โครงการ ซึ่งขณะนี้เปิดไปแล้ว 2 โครงการ ส่วนที่เหลือจะเปิดภายในเดือนมีนาคมนี้ โดยมีโครงการทั้งฝั่งตะวันออก ได้แก่ โครงการเพอร์เฟค เพลส พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา และโซนตะวันตก ได้แก่ โครงการเพอร์เฟค เพลส รัตนาธิเบศร์-สถานีไทรม้า โครงการเดอะ เมทโทร เพชรเกษม 48 และโครงการเพอร์ เฟค เพลส ราชพฤกษ์-ปทุมธานี อย่างไรก็ตาม ในเดือน มี.ค.นี้ บริษัทยังมีแคมเปญบ้านและทาวน์โฮมพร้อมอยู่ใน 33 โครงการ
สำหรับในไตรมาสแรกเห็นได้ชัดว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายค่ายต่างให้ความสำคัญกับโครงการแนวราบมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นสินค้าที่ยังคงได้รับความนิยมและเป็นสินค้าที่ได้รับการสนองจากกลุ่มผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
ในปี 2562 นี้หลายๆ คนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย เรามาอัพเดตถึงสถานการณ์ที่อยู่อาศัยในช่วงไตรมาสแรกกันดีกว่า ว่าในปีนี้เทรนด์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะมุ่งเน้นไปรูปแบบไหนกันบ้าง ซึ่งจากผลสำรวจของ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้ระบุว่า ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 ที่ผ่านมาตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่ชะลอตัวในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้า โดยมีการเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขายก่อนมาตรการ LTV คาดการณ์ว่าทิศทางที่อยู่อาศัยแนวราบในปี 2562 จะยังได้รับการตอบรับที่ดีจากความต้องการของผู้บริโภค
และจากการสำรวจโดยฝ่ายวิจัยและพัฒนาของบริษัทพบว่าในช่วงครึ่งหลังปี 2561 ตลาดแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์ เฮาส์มีการเติบโตอย่างน่าสนใจ อุปสงค์และอุปทานเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน โดยตลาดบ้านเดี่ยวมีอุปทานเสนอขายเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้มีอุปทานรวมอยู่ที่ราว 17,400 ยูนิต ในจำนวนนี้มีอุปทานใหม่เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า หรือประมาณ 7,300 ยูนิต
โดยมีโครงการเก่าที่ขยายเฟสก่อสร้าง และมีอุปทานของโครงการใหม่ที่เปิดขายโดยเกิดจากการที่ผู้ประกอบการต้องการกระตุ้นลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อก่อนการบังคับใช้เกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในเดือนเมษายน ซึ่งมีอุปสงค์ให้การตอบรับไป 7,700 ยูนิต หรือคิดเป็นยอดขาย 44% โดยอุปสงค์รวมในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 เพิ่มขึ้น 46% ส่วนตลาดทาวน์เฮาส์ พบอุปทานเสนอขายเพิ่มขึ้น 21% มาอยู่ที่ประมาณ 36,200 ยูนิต สำหรับอุปทานใหม่เพิ่มขึ้น 24% หรือคิดเป็น 16,000 ยูนิต โดยอุปสงค์ให้การตอบรับ 17,200 ยูนิต หรือคิดเป็นอัตราขายได้ 47% ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ อย่างเช่น บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) ปีนี้มีแผนในการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ โกลเด้น นีโอ 6 โครงการมูลค่ารวมกว่า 7,000 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2 นี้มีแผนจะเปิดตัวโครงการแรกในทำเลแจ้งวัฒนะ-เมืองทองธานี ส่วนไตรมาส 3 เปิด 2 โครงการ และไตรมาส 4 อีก 4 โครงการ ซึ่งปัจจุบันโครงการภายใต้แบรนด์โกลเด้น นีโอ พร้อมกับนวัตกรรมบ้านนีโอ โฮม รวมทั้งสิ้น 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 6,514 ล้านบาท
สำหรับนวัตกรรมบ้านนีโอ โฮม ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด "สวย" ด้วยแบบบ้านใหม่ทั้งภายในและภายนอก สไตล์ยุโรป "ครบ" ด้วยฟังก์ชันเพื่อการอยู่อาศัยที่ครบครัน "คุ้ม" ด้วยบรรยากาศเพื่อความสุขของการอยู่อาศัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของครอบครัว และ "ใกล้เมือง" ซึ่งเป็นการพัฒนาบ้านที่เน้นในทำเลใกล้เมือง เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วนหรือรถไฟฟ้า ปัจจุบันที่ดินทำเลใกล้เมืองมีราคาสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้นีโอ โฮม เป็นบ้านที่รองรับความต้องของผู้บริโภคที่ต้องการบ้านใกล้เมืองในราคาที่จับต้องได้
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ามียอดขายภายใต้แบรนด์โครงการนีโอ โฮม อยู่ที่ 5,900 ล้านบาท เป้ารับรู้รายได้ที่ 3,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่ผ่านมาจำนวน 1,743 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 106% โดยในปัจจุบันบริษัทมียอดรับรู้รายได้แล้ว กว่า 33% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งมั่นใจว่าในปีนี้จะสามารถทำยอดขายและรับรู้รายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ด้านยักษ์ใหญ่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ อย่าง บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายจะมียอดขายโดยมีสัดส่วนจากโครงการแนวราบ 70% และโครงการคอนโดมิเนียม 30% และจะให้ความสำคัญกับกลุ่มบ้านระดับบน ซึ่งมาตรการควบคุมสินเชื่อบ้านไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อบ้านกลุ่มนี้ และเน้นบ้านแบบสั่งสร้าง เพื่อให้ลูกค้ามีเวลาผ่อนดาวน์ก่อนโอน 6-7 เดือน นอกจากนี้บริษัทยังทำยอดขายเพิ่มขึ้นจากโครงการโซนตะวันออก สุขุมวิท 77-สุวรรณภูมิ, กรุงเทพกรีฑา และรามคำแหง
โดยในไตรมาส 1 ปี 2562 บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 4 โครงการ ซึ่งขณะนี้เปิดไปแล้ว 2 โครงการ ส่วนที่เหลือจะเปิดภายในเดือนมีนาคมนี้ โดยมีโครงการทั้งฝั่งตะวันออก ได้แก่ โครงการเพอร์เฟค เพลส พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา และโซนตะวันตก ได้แก่ โครงการเพอร์เฟค เพลส รัตนาธิเบศร์-สถานีไทรม้า โครงการเดอะ เมทโทร เพชรเกษม 48 และโครงการเพอร์ เฟค เพลส ราชพฤกษ์-ปทุมธานี อย่างไรก็ตาม ในเดือน มี.ค.นี้ บริษัทยังมีแคมเปญบ้านและทาวน์โฮมพร้อมอยู่ใน 33 โครงการ
สำหรับในไตรมาสแรกเห็นได้ชัดว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายค่ายต่างให้ความสำคัญกับโครงการแนวราบมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นสินค้าที่ยังคงได้รับความนิยมและเป็นสินค้าที่ได้รับการสนองจากกลุ่มผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
ข่าวบ้านมือสอง อื่นๆ