ส.รับสร้างบ้านดึงรับเหมาภูธร รุกชิงส่วนแบ่ง ตลาดล่าง
Loading

ส.รับสร้างบ้านดึงรับเหมาภูธร รุกชิงส่วนแบ่ง ตลาดล่าง

วันที่ : 26 กุมภาพันธ์ 2562
ธุรกิจรับสร้างบ้านในระบบที่มีสัดส่วนราว 10-20% หรือมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาทในปี 2561 แต่มูลค่าตลาดรวมรับธุรกิจรับสร้างบ้านทั่วประเทศที่อยู่นอกระบบ พบว่ามีมูลค่าสูงกว่า 1.2 แสนล้านบาท ทำให้สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านต้องเปิดเกมรุก ดึง "บริษัทรับเหมารายเล็ก" โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัดเข้ามาอยู่ ในระบบ สร้างมาตรฐานรับสร้างบ้าน มืออาชีพให้กับธุรกิจในประเทศ
          ประกายดาว แบ่งสันเทียะ

          ธุรกิจรับสร้างบ้านในระบบที่มีสัดส่วนราว 10-20% หรือมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาทในปี 2561 แต่มูลค่าตลาดรวมรับธุรกิจรับสร้างบ้านทั่วประเทศที่อยู่นอกระบบ  พบว่ามีมูลค่าสูงกว่า 1.2 แสนล้านบาท ทำให้สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านต้องเปิดเกมรุก ดึง "บริษัทรับเหมารายเล็ก" โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัดเข้ามาอยู่ ในระบบ สร้างมาตรฐานรับสร้างบ้าน มืออาชีพให้กับธุรกิจในประเทศ

          ศิริพร สิงหรัญ  นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA - Home Builders Association) เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านในปี 2562 โดยประเมินว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศมีแนวโน้มขยายตัวดี เป็นผลมาจากประชาชนเห็นความชัดเจนในการเลือกตั้ง ส่งผลไปยัง ผู้บริโภคเริ่มเชื่อมั่นต่อทิศทางเศรษฐกิจ จึงเพิ่มความต้องการสร้างบ้านมากยิ่งขึ้น

          โดยระบุว่า ท่ามกลางตลาดอสังหา ริมทรัพย์ทั้งระบบเข้าสู่ "ภาวะชะลอตัว"แต่เชื่อว่ากลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านจะเติบโตสวนทางตลาด เพราะส่วนใหญ่เป็น ความต้องการที่แท้จริง (Real Demand)  โดยผู้สร้างบ้านวางแผนล่วงหน้า 6 เดือน ถึง 1 ปี บนที่ดินของตัวเองเป็นหลัก

          ทั้งนี้คาดการณ์การเติบโตของธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2562จะขยายตัวต่อเนื่อง 5-8% หรือมูลค่าราว 12,500-13,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท ขยายตัว 10% สูงสุดในช่วง 2 ปีก่อนหน้านี้ (2559-2560)  "การเติบโตในปีที่แล้วและต่อเนื่องมาถึงปีนี้เกิดจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในการปลูกและสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านมากขึ้น แม้ภาพรวม อสังหาฯไม่ดี แต่ธุรกิจรับสร้างบ้านดี" นายกสมาคมฯ ย้ำ อย่างไรก็ตามูลค่าตลาดรวมของกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้าน ในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท เป็นการประเมินจากฐานสมาชิกที่อยู่ในระบบธุรกิจรับสร้างบ้านของสมาคมเท่านั้น คิดเป็นสัดส่วนเพียง 20% ของตลาดรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในกรุงเทพฯ และปริมณฑลรวมกันอยู่ที่ 50,000 ล้านบาท ทั้งนี้หากรวมทั้งกลุ่มธุรกิจทั่วประเทศ ที่มีกลุ่มผู้รับเหมาต่างจังหวัดที่อยู่นอกระบบจะมีมูลค่ารวมถึง 1.2 แสนล้านบาท ที่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้รับเหมารายเล็ก และเป็นกลุ่มรับสร้างบ้านราคาต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท

          นี่จึงเป็นสิ่งที่สมาคมต้องเร่งทำให้กลุ่มธุรกิจรับเหมาเข้ามาอยู่ในระบบให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้างมาตรฐานในกลุ่มธุรกิจมีความเป็นมืออาชีพ รวมถึงการผลักดันให้กลุ่มธุรกิจมีการเติบโตในอนาคต จะทำให้สัดส่วนมูลค่าตลาดของสมาคมเพิ่มขึ้นเป็น 25% ภายใน 1-2 ปี หลังจากมีสัดส่วน 20% ของมูลค่ารวมในตลาดมาหลายปีที่ผ่านมา

          "ต้องขยายฐานสมาชิกนอกวงการให้ตื่นตัวมาเป็นสมาชิก หากสร้างมาตรฐานก็จะเติบโตแย่งแชร์จากบริษัทรับเหมา โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัดเริ่มเข้ามาเป็นฐานสมาชิกเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันสมาชิกเติบโตทุกเซ็กเมนท์"

          นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ยังเผยถึงผลสำรวจความต้องการ ปลูกบ้านที่เข้าไปสอบถามผู้บริโภค ภายในงานรับสร้างบ้านและวัสดุในปี ที่ผ่านมา กว่า 4,000 คน พบว่า ผู้บริโภคเกือบ 70% มีแนวโน้มที่จะปลูกสร้างบ้านภายใน 6 เดือนถึง 1 ปี และภายใน 1 ปีขึ้นไป สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคจะเริ่มตัดสินใจสร้างบ้าน ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2562 จึงเป็นที่มาของการจัดงาน "รับสร้างบ้านและวัสดุ (Home Builder & Material Focus 2019)" ในระหว่างวันที่ 21-24 มี.ค.นี้ เพื่อกระตุ้นยอดขาย รองรับความต้องการปลูกบ้านในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนผู้ร่วม เข้าชมงานกว่า 40,000-50,000 คน มียอดขาย  1,200 ล้านบาท โดยภายหลังการจัดงานคาดว่าจะมียอดขายเพิ่มเติมอีกประมาณ 1,000 ล้านบาท

          จากการสำรวจความต้องการบ้าน ยังพบระดับราคาบ้านที่ผู้บริโภคให้ความสนใจมากที่สุดอยู่ที่ราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท มีสัดส่วน 38.58% รองลงมาคือบ้านระดับราคา 2-5 ล้านบาทมีสัดส่วน 37.89% และบ้านระดับราคา 5-10 ล้านบาท มีสัดส่วน 16.68% ส่วนบ้านกลุ่มหรู (Luxury) ที่มีราคาตั้งแต่ 10-20 ล้านบาท มีสัดส่วน 4.94% และบ้านระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป มีสัดส่วน 1.91%

          ผู้บริโภคเกือบ 70% มีแนวโน้มที่จะปลูกสร้างบ้านภายใน 6 เดือนถึง 1 ปี และภายใน 1 ปีขึ้นไป สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคจะเริ่มตัดสินใจสร้างบ้านในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2562