“ไพรินทร์” สั่ง รฟม.เร่งทำการตลาดจูงใจประชาชนใช้บริการอาคารจอดแล้วจร รถไฟฟ้าสายสีม่วง วางเป้าใน 1 ปี ต้องมีผู้ใช้บริการที่สถานีคลองบางไผ่เพิ่มขึ้น 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 600 คันต่อวัน

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (4 ก.พ.) นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางไปตรวจความคืบหน้าการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-เตาปูน ที่ศูนย์ซ่อมบำรุงคลองบางไผ่ เพื่อพิจารณาหามาตรการจูงใจประชาชนนำรถส่วนตัวมาจอดที่อาคารจอดแล้วจร รถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งมีอยู่ 4 แห่ง (สถานีคลองบางไผ่/สามแยกบางใหญ่/บางรักน้อยท่าอิฐ/แยกนนทบุรี) และเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเข้าเมือง เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษ

          นายไพรินทร์ เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้ผู้บริหารการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ว่า ควรหามาตรการด้านการตลาดมาจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้บริการอาคารจอดแล้วจรมากขึ้น โดยเฉพาะอาคารจอดรถที่สถานีคลองบางไผ่ ซึ่งสามารถจอดรถได้มากถึง 1,986 คัน ถือเป็นอาคารจอดรถที่ใหญ่ที่สุดของรถไฟฟ้าสายสีม่วง โดยตนวางเป้าหมายให้ รฟม.ว่าในอีก 1 ปีจากนี้ รฟม.จะต้องหามาตรการจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้บริการอาคารจอดแล้วจรที่สถานีคลองบางไผ่เพิ่มขึ้น 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 500-600 คันต่อวัน ขณะที่ล่าสุดมีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงอยู่ที่ 60,000 คน เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงแรกที่เปิดให้บริการ

          ทั้งนี้ มาตรการจูงใจที่ควรนำมาใช้ เช่น การพัฒนาพื้นที่ให้มีร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง หรือพื้นที่ล้างรถ เพื่อที่ผู้โดยสารจะสามารถใช้บริการได้ก่อนกลับบ้าน ขณะเดียวกันบริเวณพื้นที่ศูนย์ซ่อมบำรุงชั้น 2-3 ยังเป็นพื้นที่ว่าง รฟม.จึงควรเตรียมพื้นที่เพื่อรองรับหน่วยงานและองค์กรที่คาดว่าจะมาใช้สถานีดังกล่าว คือ ที่ตั้งกรมการขนส่งทางราง สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์กรมหาชน) และโรงเรียนสอนขับรถไฟฟ้า ซึ่ง รฟม.ได้ร่วมกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น (JICA) ในการฝึกสอนบุคลากร โดยจะมีการเปิดตัวโรงเรียนในเดือนมีนาคมนี้ และจะทำให้ศูนย์ซ่อมบำรุงคลองบางไผ่กลายเป็นศูนย์กลางการพัฒนาระบบราง

          โดยกิจกรรมทั้งหมดดังกล่าวไม่ได้ขัดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่อนุญาตให้นำที่ดินเวนคืนมาพัฒนาเชิงพาณิชย์เพื่อหารายได้ เพราะเป็นกิจกรรมเสริมมิใช่กิจกรรมหลัก นอกจากนี้ยังสั่งการให้ รฟม.พัฒนาแอปพลิเคชันที่สามารถระบุได้ว่าอาคารจอดรถแต่ละแห่งยังมีที่ว่างหรือไม่ เพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบการดำเนินชีวิตยุคใหม่ และทำให้ประชาชนตัดสินใจนำรถมาจอดที่อาคารจอดแล้วจรได้ง่ายขึ้น

          อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในบริเวณอาคารจอดแล้วจรคลองบางไผ่ มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่เป็นคู่แข่งสำคัญ เพราะสามารถนำรถเข้าไปจอดได้ฟรี และมีทางเดินเชื่อมต่อจากศูนย์การค้าเข้าสู่สถานีรถไฟฟ้า ดังนั้น รฟม.ต้องเร่งหาวิธีที่จะแข่งขันกับศูนย์การค้าดังกล่าวให้ได้