อีอีซี แรงไม่ตก อสังหาฯ นำโด่ง
วันที่ : 24 ธันวาคม 2561
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงสถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ประกอบด้วย จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยองว่า ในช่วง 11 เดือน
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงสถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ประกอบด้วย จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยองว่า ในช่วง 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) ปี 61 มีจำนวน 6,645 ราย เพิ่มขึ้น 6.75% เทียบกับช่วงเดียวกันปี 60 ที่มีทุนจดทะเบียน 18,300 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจที่จัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ 1,193 ราย ก่อสร้างอาคารทั่วไป 549 ราย และภัตตาคารและร้านอาหาร 283 ราย
ทั้งนี้ ส่งผลให้นิติบุคคลคงอยู่ในพื้นที่อีอีซีในปัจจุบันมีจำนวน 66,700 ราย ทุนจดทะเบียน 1.83 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา 5,200 ราย ทุนจดทะเบียน 174,000 ล้านบาท, ชลบุรี 48,900 ราย ทุนจดทะเบียน 1.07 ล้านล้านบาท และระยอง 12,600 ราย ทุนจดทะเบียน 580,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจบริการสัดส่วน 60.38% และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) สัดส่วน 98.10%
สำหรับการลงทุนของต่างชาติในนามนิติบุคคลไทยในพื้นที่อีอีซี (ต่างชาติถือหุ้นไม่เกิน 49.99%) มีมูลค่าทั้งสิ้น 689,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 37.63% ของมูลค่าทุนทั้งหมด โดยชาวต่างชาติที่ลงทุนในนามนิติบุคคลไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น มูลค่า 356,000 ล้านบาท สัดส่วน 51.71% สิงคโปร์ 56,600 ล้านบาท สัดส่วน 8.22% จีน 46,500 ล้านบาท สัดส่วน 6.74% สหรัฐฯ 27,900 ล้านบาท สัดส่วน 4.06% เกาหลีใต้ 20,400 ล้านบาท สัดส่วน 2.96% และอื่นๆ 181,000 ล้านบาท สัดส่วน 26.31%
ทั้งนี้ ส่งผลให้นิติบุคคลคงอยู่ในพื้นที่อีอีซีในปัจจุบันมีจำนวน 66,700 ราย ทุนจดทะเบียน 1.83 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา 5,200 ราย ทุนจดทะเบียน 174,000 ล้านบาท, ชลบุรี 48,900 ราย ทุนจดทะเบียน 1.07 ล้านล้านบาท และระยอง 12,600 ราย ทุนจดทะเบียน 580,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจบริการสัดส่วน 60.38% และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) สัดส่วน 98.10%
สำหรับการลงทุนของต่างชาติในนามนิติบุคคลไทยในพื้นที่อีอีซี (ต่างชาติถือหุ้นไม่เกิน 49.99%) มีมูลค่าทั้งสิ้น 689,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 37.63% ของมูลค่าทุนทั้งหมด โดยชาวต่างชาติที่ลงทุนในนามนิติบุคคลไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น มูลค่า 356,000 ล้านบาท สัดส่วน 51.71% สิงคโปร์ 56,600 ล้านบาท สัดส่วน 8.22% จีน 46,500 ล้านบาท สัดส่วน 6.74% สหรัฐฯ 27,900 ล้านบาท สัดส่วน 4.06% เกาหลีใต้ 20,400 ล้านบาท สัดส่วน 2.96% และอื่นๆ 181,000 ล้านบาท สัดส่วน 26.31%
ข่าวเขตเศรษฐกิจพิเศษ อื่นๆ