"พาณิชย์"เผย 10 เดือน ธุรกิจใหม่แห่ตั้งกิจการพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ 2,125 ราย พุ่ง 6.62% คาดทั้งปีโตไม่ต่ำกว่า 10% ชี้อีอีซีเชื่อมโยงเอสอีซี หนุนการลงทุนขยายตัว

          นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ยอดการ จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ภาคใต้ (เอสอีซี) ประกอบด้วย จ.ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ช่วง 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.) 2561 มี 2,125 ราย เพิ่มขึ้น 6.62% เทียบช่วงเดียวกันกับ ปีที่แล้วที่มีจำนวน 1,993 ราย โดยมี ทุนจดทะเบียนจัดตั้ง 10 เดือน 2561 มูลค่า 4,533 ล้านบาท ลดลง 29.54%

          ทั้งนี้ ธุรกิจที่มีการจัดตั้งสูงสุด 3 อันดับแรกในเอสอีซี ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ 217 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้ง 901 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารทั่วไป 205 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้ง 494 ล้านบาท และโรงแรม รีสอร์ทและห้องชุด 167 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้ง 405 ล้านบาท สำหรับแนวโน้มการจัดตั้งธุรกิจในเอสอีซีปี 2561 จะเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่แล้ว หรือไม่ต่ำกว่า 10% เนื่องจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร่งรัดโครงการในเอสอีซีมูลค่าหลายแสนล้านบาท เพราะรัฐบาลต้องการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพื้นที่ดังกล่าว และเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมกับและการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันได้ให้ความสำคัญกับภาคการเกษตรในพื้นที่ทั้งข้าว ยางพารา และปาล์มน้ำมัน เชื่อว่าพื้นที่ ดังกล่าวจะยังดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ได้อีกมากในอนาคต "แม้พื้นที่เอสอีซีจะเล็กกว่าระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) แต่เป็นพื้นที่ สำคัญที่รัฐบาลเร่งการลงทุน เพื่อเชื่อมด้านคมนาคมระหว่างอีอีซีกับเอสอีซี ทำให้ เอสอีซีดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติได้มาก"

          สำหรับนิติบุคคลที่คงอยู่ในพื้นที่เอสอีซีมี 2.22 หมื่นราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 1.26 แสนล้านบาท แบ่งเป็น สุราษฎร์ธานี 1.46 หมื่นราย ทุนจดทะเบียน 7.95 หมื่นล้านบาท นครศรีธรรมราช 4,835 ราย มูลค่าทุน จดทะเบียน 2.47 หมื่นล้านบาท ชุมพร 1,836 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 1.20 หมื่นล้านบาท และระนอง 919 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 1.04 หมื่นล้านบาท