ปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า สินเชื่อในภาพรวมปีนี้น่าจะยังโตได้ดีกว่าปีที่แล้ว โดยน่าจะขยายตัวได้ที่ 4% ตามภาพเศรษฐกิจละการลงทุนท่าจะมีมากขึ้น โดยปีนี้คาดว่าการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัวดีขึ้นเป็น 2.8% จากปีที่แล้วที่ 0.5% ซึ่งปีนี้ธนาคารตั้งเป้าว่าจะขยายสินเชื่อที่ 4-6% ตามกลุ่มสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน วัสดุก่อสร้าง ที่น่าจะดีตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล ส่วนธุรกิจเอกชนจะมีการลงทุนใหม่ หรือจะใช่สินเชื่อหรือไม่ก็ขึ้นกับลูกค้าแต่ละราย แต่น่าจะมีคละกันทั้งลงทุนเพิ่มและไม่ลงทุน โดยรายไหนที่ยังใช้กำลังการผลิตไม่เต็ม 100 อาจยังไม่กู้ใหม่ ส่วนเอ็นพีแอลมองว่าได้ผ่านจุดที่เพิ่มขึ้นสูงสุดไปแล้วการปรับในปีนี้น่าจะดีขึ้นเช่นกัน

"เราหวังว่าสินเชื่อที่ขยายตามการลงทุนจะปรับดีขึ้นได้ จากการลงทุนเพื่อรองรับระยะยาว แต่คงมีไม่มากนักเพราะยังมีความไม่แน่นอนจากการประกาศนโยบายต่างๆ ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ยังไม่ชัดว่าจะกระทบส่วนใดบ้าง จนกว่าจะเกิดการทำจริง ฉะนั้นนักลงทุนก็ยังกังวลที่จะลงทุนอยู่ ทำให้ธนาคารเองก็ไม่ทำอะไรที่ประมาท" ปรีดี กล่าว

ศศิธร พงศธร กรรมการผู้จัดการธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ยืนยันว่า ธนาคารยังคงใช้เกณฑ์มาตรฐานเดิมพิจารณาปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้ลูกค้ารายย่อย ไม่ได้เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นแต่อย่างใด แต่สาเหตุที่ไม่สามารถปล่อยสินเชื่อได้มาก ก็เนื่องมาจากคุณภาพลูกค้าไม่ผ่านเกณฑ์มากกว่า โดยเฉพาะปัญหาจากหนี้ครัวเรือนที่ยังสูงอยู่จากเมื่อต้นปี 2559 หนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 80% พอมาปลายปี 2559 ก็เพิ่มเป็น 85% ส่งผลให้ยอดการอนุมัติ สินเชื่อที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าลดลงเหลือ 30-40% จากเดิมอยู่ที่ 50% ซึ่งหวังว่าหากปีนี้เศรษฐกิจเติบโต ได้ถึง 4% ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ ก็จะทำให้ลูกค้ามีรายได้เพิ่มขึ้นและส่งผลให้ยอดการอนุมัติสินเชื่อกลับมาเติบโตได้มากขึ้น

อิษณาติ วุฒิธนากุล ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค หรือเอฟเอ็มซีจี (Fast Moving Consumer Goods) ในปี 2559 ที่ผ่านมามีการขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 1.7% ต่ำสุดในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ภาพรวมกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคเติบโตต่ำสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมาเกิดจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคขาดความมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอย

ทั้งนี้ จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลงดังกล่าว ส่งผลให้การ จับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคจะเน้นซื้อสินค้าเฉพาะในช่วงที่มีการทำโปรโมชั่น ขณะเดียวกันก็ลดจำนวนการซื้อน้อยลง ลดกลุ่มสินค้าที่เคยซื้อ และเปลี่ยนขนาดบรรจุภัณฑ์ที่ซื้อให้เหมาะสมกับกำลังซื้อในขณะนั้น

อย่างไรก็ดี จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้คาดการณ์ว่าภาพรวมกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคสิ้นปี 2560 น่าจะกลับมาโตได้ที่ประมาณ 2.3% จากปี 2559 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 4.44 แสนล้านบาท

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์