ปลุกผี5พื้นที่ศก.ชายแดนหนุนลงทุน
ยกเว้นค่าเช่า2ปีเอื้อเอกชนลงทุน
ปลุกเขตศก.ชายแดน ชง "บิ๊กตู่" เปิดประมูล 5 พื้นที่เดือนธ.ค.นี้ ทั้งแม่สอด นครพนม เมืองกาญจน์ พ่วงมุกดาหารหนองคาย ที่เปิดเป็นรอบ 3 หลังซีพีเมินไม่ตอบโจทย์
โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน เป็นนโยบายที่รัฐบาลนี้ ผลักดันให้เกิดการค้าการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน มาโดยตลอดแต่ผ่านมาร่วม 3 ปี กลับมีความคืบหน้าน้อยมาก ต่างจากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ล่าสุดกรมธนารักษ์คาดว่าในเดือนธันวาคมนี้ น่าจะเปิดให้เอกชนประมูลที่ดินที่ราชพัสดุเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนรวดเดียว 5 พื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก 1,257 ไร่ นครพนม กว่า 1,800 ไร่ กาญจนบุรี 500 ไร่ จากกว่า 2,000 ไร่ มุกดาหาร 1,080 ไร่ และหนองคาย 714 ไร่ โดยจะได้เสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณาเห็นชอบ
ทั้งนี้แม่สอด กาญจนบุรี และนครพนม ล่าสุดเคลียร์พื้นที่แล้ว โดยเฉพาะแม่สอด จังหวัดตากเดิมติดชาวบ้านบุกรุก ส่วนอีก 2 พื้นที่ คือ มุกดาหารและหนองคายคาดว่าจะนำกลับมาประมูลใหม่ เป็นรอบที่ 3 ในเดือนธันวาคม เพราะล่าสุดเอกชนที่ชนะประมูลติดเงื่อนไขคุณสมบัติ ไม่มีศักยภาพพอที่จะพัฒนาได้ จึงเสนอต่อบอร์ดกนพ. เห็นชอบให้เปิดประมูลใหม่ ขณะเดียวกันนักลงทุนรายใหญ่อย่างค่ายซีพี ที่ซื้อซองไป กลับไม่ยื่นประมูลทั้ง 2 พื้นที่โดยให้เหตุผลว่า ไม่ตอบโจทย์การลงทุน
แหล่งข่าวจากกรมธนารักษ์ เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าเพื่อกระตุ้นการลงทุนจริง กรมธนารักษ์มีแนวคิดออกมาตรการกระตุ้น ถ้าเอกชนลงทุนก่อสร้างจริงเพียง 10% ของมูลค่าโครงการ ได้รับสิทธิเว้นค่าเช่า 2 ปี หลังทำสัญญาเช่า แม้กรมจะไม่มีรายได้ จากค่าเช่าแต่ จะได้ภาษีจากการลงทุน และการจ้างงานนอกจากนี้สำนักคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอที่อาจจะให้สิทธิประโยชน์เพิ่มซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณา"
ส่วนพื้นที่ อำเภอแม่สาย ขณะนี้ ทางจังหวัดอยู่ระหว่างเจรจากับโรงงานยาสูบ เพื่อขอใช้ที่ดิน 800 ไร่ พัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษ แต่ถูกปฏิเสธเนื่องจาก โรงงานยาสูบอ้างว่า ยังใช้พื้นที่ โดยให้ชาวบ้านเช่าปลูกยาสูบป้อนโรงงานกว่า 500 หลังคาเรือน หากไม่ได้ที่ดินแปลงดังกล่าวจริงเอกชนสามารถลงทุนในพื้นที่ตนเองได้ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศพื้นที่ครอบคลุมเขตเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดเชียงรายเนื้อที่ 1,523 ตารางกิโลเมตร หรือ 952,226 ไร่ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนในที่ดินให้เช่าที่รัฐจัดหาให้เพียงแต่ต้นทุนที่ดินจะสูงกว่า แต่ได้รับสิทธิ์ส่งเสริมการลงทุนเหมือนกัน
ส่วนพื้นที่ที่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เข้าพื้นที่ ได้แก่ สระแก้วขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาพื้นที่สงขลา ทั้ง 2 แปลง แม่สอดแปลง เล็ก 1 แปลง 800 ไร่ กาญจนบุรีกว่า 1,000 ไร่ และ นราธิวาสเป็นที่ดินเอกชนที่กนพ.มีมติให้ กนอ.ซื้อและลงทุน
ด้านนายอัฐพล จิรวัฒน์จรรยา ผู้เชี่ยวชาญระดับ 12 กนอ. กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างของบประมาณปี 2561 พัฒนานิคมอุตสาหกรรมบนที่ราชพัสดุเขตเศรษฐกิจพิเศษ สงขลา วงเงิน กว่า 1,000 ล้านบาท ส่วนแปลงแม่สอดเนื้อที่ 800 ไร่ ยังเข้าพื้นที่ไม่ได้เนื่องจากติดปัญหาผู้บุกรุก ขณะที่ สระแก้ว ปรับพื้นที่เรียบร้อยแล้วเตรียมก่อสร้าง ส่วนแผนซื้อที่ดินเอกชน 2,200 ไร่เพื่อพัฒนานิคมเขตเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส อยู่ระหว่างของบกว่า 2,000 ล้านบาท และกำลังต่อรองราคากับเอกชน
นายภมร เชาว์ศิริกุล ประธานหอการค้าจังหวัดมุกดาหารกล่าวว่า เขตเศรษฐกิจมุกดาหารไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ราคาที่ดินขยับแล้วไม่ลง อย่างไรก็ดีมองว่า เมืองชายแดนมีศักยภาพการค้าชายแดนและค้าข้ามแดนในตัวเองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องขับเคลื่อนโดยมีเขตเศรษฐกิจพิเศษ ส่วนการประมูลหาเอกชนลงทุนเข้าไปพัฒนาที่ราชพัสดุ ของมุกดาหารและหนองคาย ขณะนี้ไม่มีเอกชนสนใจ เชื่อว่า กนอ. น่าจะเข้ามาดำเนินการ
ดร.เทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด จังหวัดตาก เผยว่า การพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก (แม่สอด) ตามระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก จำเป็นต้องมีสร้างทางพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์ นครแม่สอด-เมืองตาก เนื่องจากทางหลวงหมายเลข 12 ไม่เอื้อต่อการขนส่งสินค้าที่มีจำนวนมาก โดยเบื้องต้นกำหนดการ ศึกษา 3 แนวทาง เจาะอุโมงค์ 3 จุด ระยะทางในอุโมงค์แต่ละแห่ง 9-10 กม. โดยรูปแบบอุโมงค์นั้น จะมี 2 ช่องทางจราจร ไปกลับ 4 ช่องทางจราจร และมีอุโมงค์เล็ก ทุกๆ ระยะ 250 เมตร เพื่อหลบภัย หากเกิดกรณีฉุกเฉิน โดยจุดออกด่าน อ.แม่สอด นั้น ควรอยู่ที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏแม่สอด