ทุนรายย่อยเชียงรายอ่วมยักษ์ใหญ่บุกยึดตลาด
Loading

ทุนรายย่อยเชียงรายอ่วมยักษ์ใหญ่บุกยึดตลาด

วันที่ : 9 ตุลาคม 2560
ทุนรายย่อยเชียงรายอ่วมยักษ์ใหญ่บุกยึดตลาด

ประธานหอการค้าเชียงรายเผยเศรษฐกิจโต แต่ไม่สมดุล ทุนท้องถิ่นรายย่อยพ่ายทุนยักษ์บุกเปิดสาขายึดตลาดเบ็ดเสร็จ ชงรัฐพัฒนาพื้นที่อำเภอ "เวียงเชียงรุ้ง" เป็นศูนย์กลางเชื่อมเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สาย เชียงแสน เชียงของ

นายพรเทพ อินทะชัย ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงรายตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันเติบโตขึ้น แต่ไม่มีความสมดุล เนื่องจากอัตราการเติบโตดังกล่าวเกิดจากการที่มีกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่หลายรายเข้ามาตั้งกิจการในพื้นที่มากขึ้น โดยเฉพาะศูนย์การค้าที่เกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ ขณะที่กลุ่มทุนท้องถิ่นรายย่อยประสบกับภาวะถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้รูปแบบการค้าที่เปลี่ยนไปสู่ระบบอีคอมเมิร์ซมากขึ้น ทำให้กลุ่มทุนท้องถิ่นได้รับผลกระทบอย่างหนัก ผู้ที่ยังสามารถดำรงกิจการอยู่ได้ส่วนใหญ่จะอยู่ในอำเภอห่างไกล เพราะ ผู้บริโภคยังนิยมซื้อขายแบบเดิม ซึ่งการแก้ไขปัญหานั้นยากอย่างยิ่งเพราะเป็นยุคการค้าเสรี แต่หากมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจส่งเสริมกลุ่มทุนท้องถิ่นให้มากและต่อเนื่องก็จะช่วยให้คงอยู่ได้ต่อไป

สำหรับมูลค่าการค้าชายแดนปีนี้ที่ลดน้อยลงนั้น เกิดจากหลายปัจจัย เช่น ด่านตรวจของ สปป.ลาว บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว เชื่อม อ.เชียงของ กับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว บนถนนอาร์สามเอซึ่งเป็นเส้นทางค้าระหว่างไทย-สปป.ลาว-จีน มีการเก็บค่าผ่านทางสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ชัดเจน ส่วนประเทศจีนก็เข้มงวดการนำเข้าสินค้ามากขึ้น

สำหรับโครงการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) จ.เชียงรายในพื้นที่ 3 อำเภอคือ อ.แม่สาย อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของนั้น ต่างก็มีเอกลักษณ์การพัฒนาเฉพาะพื้นที่ตัวเอง จึงควรมีศูนย์กลางเพื่อเชื่อมการพัฒนาทั้ง 3 แห่งเข้าด้วยกันมากกว่าปล่อยให้แต่ละพื้นที่พัฒนาไปเอง โดยภาคเอกชนเสนอให้มีการพัฒนาพื้นที่ อ.เวียงเชียงรุ้ง เพราะเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมระหว่างชายแดนทั้ง 3 แห่งดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจยังมีแนวโน้ม พัฒนาไปได้โดยภาคการเกษตร มีการหันมาพัฒนาการเกษตรปลอดภัย ทำให้เพิ่มมูลค่าและเป็นจุดขายได้มากขึ้น แต่ควรที่จะมีการพัฒนาหนองหลวงซึ่งเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่พื้นที่ อ.เวียงชัย และจัดระบบชลประทานก็จะหล่อเลี้ยงภาคการเกษตรได้จำนวนมาก และยังสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทะเลสาบได้ด้วย

นอกจากการส่งเสริมด้านการเกษตรปลอดสารเคมีเพื่อเป็นจุดขายแล้ว ควรมุ่งประชาสัมพันธ์เรื่องราวประวัติศาสตร์ให้มากขึ้น โดยเฉพาะเชียงรายเป็นดินแดนสามเหลี่ยมทองคำที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และมีการใช้การเกษตรแก้ไขปัญหาพืชเสพติด ปัจจุบันมีตัวอย่างคือโครงการพัฒนาดอยตุงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และหอฝิ่น อ.เชียงแสน ซึ่งสามารถนำมาเชื่อมกับการท่องเที่ยวด้านอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งภาคเอกชนจะนำเสนอต่อภาครัฐเพื่อดำเนินการต่อไป

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ
ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ