นายวิทูร สุริยวนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเราวางเป้าหมายต้องการเป็นช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านที่ดีที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ทางบริษัทได้กำหนดกลยุทธ์การแข่งขันไว้ 5 เรื่อง ได้แก่ 1.จำหน่ายสินค้าในราคาที่สมเหตุสมผลและยุติธรรมที่สุด 2.บุคลากรพร้อมให้บริการอย่างดีที่สุด 3.มีสินค้าให้เลือกมากที่สุด ทั้งระดับล่าง ระดับกลางและระดับบน 4.บริการดีที่สุด เมื่อเทียบกับมาตรฐานสากล 5.พัฒนาการจัดวางและการจัด แสดงสินค้าให้ดีที่สุด

          นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางบริษัทจึงได้นำนวัตกรรมทางการค้าระบบโมเดิร์นเทรด มาปรับใช้กับการบริหาร "โกลบอลเฮ้าส์" ในทุกๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในส่วนของการบริหารคลังสินค้าซึ่งถือเป็นหนึ่งในหัวใจของธุรกิจค้าปลีกนั้น ทางบริษัทได้นำระบบบริหารคลังสินค้าอัตโนมัติ หรือ ASRS ที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ทั้งระบบมาใช้กับร้านโกลบอลเฮ้าส์ สาขาปราณบุรี เป็นแห่งแรกเมื่อปี 2559 เพื่อเพิ่มความรวดเร็ว แม่นยำ สะดวกและประหยัดเวลาสำหรับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ในปัจจุบันทางบริษัทนำระบบ ASRS ไปใช้กับร้านโกลบอลเฮ้าส์แล้ว จำนวน 16 สาขา นอกจากนี้ เพื่อรองรับการ เจริญเติบโตของธุรกิจในอนาคต และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานทั้ง Supply Chain บริษัทจึงได้ทุ่มงบกว่า 600 ล้านบาทก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าอัตโนมัติซึ่งติดตั้งระบบ ASRS (Automated Storage Retrieval System) ขึ้นบนพื้นที่ กว่า 100 ไร่ ใน อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

          " ในเฟสแรกศูนย์กระจายสินค้าจะมีพื้นที่คลังสินค้า 30,000 ตารางเมตร จัดเก็บสินค้าในส่วนของพื้นที่ ASRS ได้กว่า 43,000 พาเลท จัดเก็บเหล็กได้กว่า 5,000 ตัน และจัดเก็บกระเบื้อง เซรามิกได้กว่า 5,000 พาเลท นับได้ว่าเป็นศูนย์กระจายสินค้าอัตโนมัติที่มีพื้นที่จัดเก็บสินค้ามากที่สุดในธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างของเมืองไทย ซึ่งศูนย์กระจายสินค้าวังน้อยแห่งนี้จะทำให้บริษัทลดการเสียโอกาสใน การขายและช่วยเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้กับลูกค้า รวมทั้งช่วยให้ต้นทุนในการบริหารจัดการของบริษัทอยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่งผลให้ผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าในราคาที่สมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้น"

          อย่างไรก็ดี นายวิทูร กล่าวเพิ่มเติมถึงการเติบโตในปีนี้ว่า บริษัทมีรายได้จากการขายสุทธิ สำหรับไตรมาส 1/2560 เท่ากับ 5,376.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวด เดียวกันของปี 2559 จำนวน 222.32 ล้านบาท หรือ 4.31% เป็นผลมาจากการเปิดสาขาเพิ่ม 12 สาขา ปัจจุบัน "โกลบอลเฮ้าส์" มีสาขาทั่วประเทศจำนวน 52 สาขา และในเดือนพฤศจิกายนนี้เรากำลังจะเปิดสาขาที่ 53 ที่ จ.พัทลุง ทั้งนี้ ทางบริษัทมีแผนการขยายสาขาลงในระดับอำเภอเพิ่มขึ้น เช่น จ.ขอนแก่น มี 3 สาขาที่ อ.เมือง, อ.บ้านไผ่ และ อ.ชุมแพ ในขณะที่ จ.สกล นคร มี 2 สาขาที่ อ.เมือง และ อ.พังโคน นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายสาขาไปให้ทั่วอาเซียนอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ