DRT ติดปีกผลงานปี 2561 ร้อนแรง เดินหน้าเจรจาพันธมิตรรายใหญ่อินเดียและอาเซียนเต็มสูบ ชี้สินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์ตีตลาดอินเดียดูดลูกค้ากลุ่มอสังหาป้อนออเดอร์ อัพยอดส่งออกพุ่ง 20% ตามเป้า พร้อมวางงบลงทุนกว่า 200 ล้าน เสริมแกร่งเครื่องจักรรองรับความต้องการ เล็งอัดโปรโมชั่น พ.ย.-ธ.ค. 2560 หนุนรายได้เติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 5%

นายสาธิต สุดบรรทัด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า ความคืบหน้าด้านแผนการขยายตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศอินเดียขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับตัวแทนจำหน่ายรายใหม่เพิ่มเติมอีกราว 2-3 ราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปี 2561 ทั้งนี้พันธมิตรดังกล่าวนับว่าเป็นผู้ประกอบการที่ค่อนข้างมีศักยภาพเนื่องจากมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ทั้งในเขตมุมไบและเขตอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน

โกยออเดอร์อินเดีย

นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยในอินเดียเข้ามาเจรจามากขึ้น ทำให้ปัจจุบันบริษัทได้รับคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) กลุ่มสินค้าไม้สังเคราะห์เข้ามาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับความสนใจและมีความต้องการอย่างมาก โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้บริษัทมีแผนร่วมออกบูธแสดงสินค้า ณ เมือง มุมไบ ประเทศอินเดีย เชื่อว่าจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทได้รับออเดอร์เข้ามามากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ สามารถขยายตลาดในอินเดียได้เพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ดี หากทุกอย่างเป็นไปตามที่วางไว้เชื่อ แผนการทำตลาดต่างประเทศที่มากขึ้นน่าจะช่วยทำให้สัดส่วนรายได้จากการส่งออกในปีหน้าจะเพิ่มเป็น 20% ของรายได้รวม จากปัจจุบันอยู่ที่ราว 17-18% พร้อมกันนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มเติม คาดว่าในปีหน้าจะเห็นการขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น

ส่วนภาพรวมภายในประเทศในปีหน้ามองว่าจะเห็นการฟื้นตัวของยอดขายในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าในปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ ที่ทำให้ภาคเอกชนมีความมั่นใจในการลงทุนขยายธุรกิจมากขึ้น ช่วยสร้างสภาพคล่องให้กับประเทศ โดยเฉพาะโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งขณะนี้บริษัทได้มีการเจรจากับลูกค้าผู้ประกอบการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยทั้งรายใหญ่และรายย่อยไว้บ้างแล้ว

โดยหากว่านโยบาย EEC สามารถเดินได้ตามแผนที่วางไว้เชื่อว่าในปีหน้าบริษัทจะได้รับงานจากลูกค้าเข้ามาจำนวนมาก เบื้องต้นบริษัทวางงบการลงทุนปีหน้าไว้ที่ราว 100-200 ล้านบาท รองรับสำหรับการบำรุงและซ่อมแซมเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้บริษัทมีแผนเตรียมพิจารณาการลงทุนขยายกำลังผลิตเพิ่มเติมในช่วงครึ่งหลังปี 2561 ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าการลงทุนได้ต้องรอดูแนวโน้มการเติบโตของ ออเดอร์ที่จะเข้ามามีความชัดเจนก่อน แต่บริษัทมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 2561 จะเห็นภาพการเติบโตที่เพิ่มขึ้นได้อย่างชัดเจนกว่าในปีนี้แน่นอน

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี 2560 บริษัทเตรียมร่วมมือกับคู่ค้าหลัก อย่างผู้ค้าปลีก (Modern Trend) จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขยายกระตุ้นการใช้จ่ายส่งท้าย ปีอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าจะเห็นปริมาณยอดขายกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป อย่างไรก็ดี บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงสิ้นปี 2560 จะเติบโตเพิ่มขึ้นราว 5%

พิกัด 6.60 บาท

ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หากกำไรปกติในไตรมาส 3/2560  เป็นไปตามคาด บริษัทจะมีกำไรปกติของ 9 เดือนแรกปี 2560 อยู่ที่ 325 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วยเดียวกันกับปีก่อน คิดเป็น 81% ของประมาณการทั้งปีที่ 401 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน และคาดโตต่อในปี 2561 เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนเป็น 432 ล้านบาท อีกทั้งมองว่าในปีหน้าอุปสงค์ของกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ใช้ในภาคเอกชน และการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยน่าจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามความเชื่อมั่น และกำลังซื้อของผู้บริโภค จึงให้คำแนะนำ "ซื้อ" โดยมีราคาเป้าหมาย 6.60 บาท