นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมครม.สัญจร จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ว่า การเดินทางมาจังหวัดตราดและจันทบุรี ระหว่างวันที่ 5-6 ก.พ.ของครม.ในครั้งนี้ มี 2 ส่วนสำคัญ คือการตอกย้ำว่าขณะนี้เรื่องของระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี นั้นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนแล้ว เพราะพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อีอีซี จะเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือสนช.ในวันที่ 8 ก.พ.นี้ ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้น แม้ว่าก่อนหน้านี้การลงทุนจะเกิดขึ้นในพื้นที่อีอีซีแล้วก็ตาม

นอกจากนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้รายงานให้ทราบว่าการดำเนินการเกี่ยวกับพื้นที่อีอีซีนั้นมีความคืบหน้าและเป็นไปด้วยดี ขณะที่กระทรวงคมนาคมยืนยันว่าจะมีรถไฟทางคู่มาถึงจันทบุรี-ตราดแน่นอน ซึ่งจะสามารถรองรับเรื่องของการเกษตรและการท่องเที่ยวในพื้นที่นี้ได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันการลงพื้นที่ครั้งนี้ยังเป็นการเชื่อมต่อระหว่างอุตสาหกรรมการเกษตรและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการรองรับการเป็นศูนย์กลางของเมืองผลไม้

ทั้งนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีโครงการสร้างห้องเย็นขนาดใหญ่เพื่อรองรับการจัดเก็บผลไม้ในพื้นที่อีอีซี โดยจะร่วมมือกับบมจ.ปตท.และเครือเอสซีจี อยู่ในพื้นที่ที่สามารถเดินทางไปยังสนามบินอู่ตะเภาและสนามบินสุวรรณภูมิ ได้สะดวกยิ่งขึ้น ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวไปสู่ชุมชน และอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ซึ่งถือเป็นการลงทุนในอีอีซีแบบเต็มรูปแบบ