การเคหะฯ เร่งผังเมือง กทม.ปรับประโยชน์ใช้สอยที่ดินกว่า 600 ไร่ ย่านร่มเกล้าจากพื้นที่ ย.2 เป็น ย.5 จูงใจภาคเอกชนร่วมลงทุน

นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า กคช.อยู่ระหว่างรอการพิจารณาของสำนักผังเมือง กทม. ในการปรับประโยชน์การใช้สอยในที่ดินของ กคช.บริเวณร่มเกล้า ซึ่งมีเนื้อที่มากถึง 700-800 ไร่ จากปัจจุบันผังเมือง กทม.กำหนดเป็นพื้นที่รูปแบบ ย.2 หรือพื้นที่สีเหลือง ที่จำกัดขนาดและความสูงในการพัฒนาโครงการ โดย กคช.ต้องการให้เปลี่ยนเป็นพื้นที่รูปแบบ ย.5 เพื่อให้สามารถพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ได้ ซึ่งจะเป็นการจูงใจให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมทุนในการพัฒนาโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูสได้ ซึ่งเป็นทั้งที่อยู่อาศัยและการพัฒนาในรูปแบบพาณิชยกรรม

"ที่ดินบริเวณร่มเกล้านั้นติดปัญหาเรื่องผังเมืองจึงไม่สามารถพัฒนาโครงการที่จะจูงใจให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP (Public Private Partnership) ได้ จากเดิมมูลค่าโครงการอยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท พัฒนาอาคารที่มีความสูงได้ไม่เกิน 4 ชั้น แต่หากปรับเปลี่ยนประโยชน์การใช้สอยในพื้นที่เป็นรูปแบบ ย.5 จะทำให้มูลค่าโครงการเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนล้านบาท อาคารที่ก่อสร้างได้มีความสูงมากกว่า 8 ชั้นขึ้นไป ซึ่งภาคเอกชนมองว่าจะคุ้มค่ามากกว่าโครงการขนาดเล็ก เนื่องจากโครงการนี้อยู่ใกล้กับจุดตัดรถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีชมพู รวมถึงรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์" นายธัชพล กล่าว

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสำนักผังเมือง กทม.ยังไม่ได้มีการปรับแก้ประโยชน์การใช้สอยในพื้นที่ดินดังกล่าว ซึ่งทาง กคช.ได้มีการยื่นข้อปรับแก้ประโยชน์ใช้สอยไปแล้วกว่า 2 ปี อาจจะต้องนำเกณฑ์ความหนาแน่นเข้ามาใช้ในการพัฒนา (PUD) หรือ Plan Units Development มาใช้ซึ่งจะกระจายพัฒนาในพื้นที่ แต่ความหนาแน่นในการพัฒนายังเป็นไปตามกฎหมายผังเมือง

ขณะที่การพัฒนาโครงการรูปแบบ PPP ใน อ.หนองหอย จ.เชียงใหม่ นั้นรูปแบบจะเป็นแบบมินิโปรเจกต์ หรือเป็นอาคารขนาดเล็กกระจายในบริเวณพื้นที่ เชื่อว่าโครงการนี้จะไม่มีปัญหา นอกจากนี้ยังจะมีการพัฒนาโครงการรูปแบบ ดังกล่าวในบริเวณพื้นที่เฟส 3-4 ในโครงการฟื้นฟูเมืองดินแดง ที่จะพัฒนาเป็นสมาร์ทซิตี้หรือเมืองอัจฉริยะ