ปล่อยผีที่ดินรกร้างเว้นภาษี3ปี1.2ล้านไร่เอื้อบิกทุนพัฒนา-ขาย
ที่ดินรกร้าง 1.2 ล้านไร่ทั่วไทยเฮลั่นกมธ. มีมติเอกฉันท์ ยกเว้นภาษี 3 ปี ปล่อยผีพัฒนา-ขายจากเดิมเสียทันทีเพดานไม่เกิน 3% ชี้กระตุ้นทำประโยชน์ดันท้องถิ่นมีรายได้เพิ่ม 25-30% หอการค้าฯ หวั่นซัพพลายล้น
แม้อัตราการเสียภาษีจะมีความชัดเจนแต่ในกรรมาธิการวิสามัญร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ยังถกเถียงกันว่า กิจการบางประเภท ต้องทบทวนใหม่เพื่อลดผลกระทบตามข้อเรียกร้องเอกชน โดยเฉพาะที่ดินรกร่างว่างเปล่าหากถือครองในนามบุคคลธรรมดาจะได้รับยกเว้น 3 ปีหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว กลุ่มที่รับมรดก และเกษตรกรที่ยังไม่มีแผนนำที่ดินออกพัฒนาจะต้องเสียภาษี บวกเพิ่มทุก 3 ปี 0.3% เพดานสูงสุดไม่เกิน 3%
พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าเมื่อวัน ที่ 28 มีนาคม 2561 กมธ.วิสามัญ มีมติยกเว้นการเรียกเก็บภาษีที่ดินสำหรับที่ดินรกร้างซึ่งถือครองในนามบุคคลธรรมดาเป็นระยะเวลานาน 3 ปี หลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้ ทั้งนี้เพื่อลดผลกระทบให้กับชาวบ้านทั่วไปที่ยังไม่มีแผนนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ เช่นเดียวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ส่วนที่ดินรกร้างในรูปนิติบุคคลให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จัดเก็บตามอัตราปกติตั้งแต่ปีแรก คาดว่าภายใน 3 ปีท้องถิ่นจะมีรายได้เพิ่ม 25-30% จากการนำที่ดินรกร้างมาพัฒนา อาทิ เกษตร ที่อยู่อาศัย ฯลฯ จากที่ดินรกร้าง 1.2 ล้านไร่ทั่วประเทศ
ที่ประชุมยังมอบให้คณะกรรมการ 4 ฝ่ายประกอบด้วยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กรมธนารักษ์ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และกระทรวงเกษตรฯ สรุปข้อเรียกร้องของเอกชน ที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีกฎหมายแต่ละกิจการควบคุมอยู่แล้ว อีกทั้งยังเสียภาษีทั้งเงินได้บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลให้กับกระทรวงการคลังทุกปี หากเก็บภาษีที่ดินเพิ่มอีกจะเกิดการซ้ำซ้อน
อาทิ สนามกอล์ฟ เนื่องจากมีกฎหมายกีฬาควบคุมให้ถือว่าเป็นเรื่องของกีฬา ได้รับยกเว้น แต่ ภายในสนามกอล์ฟ อาจมีคลับเฮาส์ บ้านพักอาศัย ซึ่งท้องถิ่นจะพิจารณาจัดเก็บภาษีแยกตามกฎหมาย ที่กำกับดูแล
แต่ กมธ. บางท่านเห็นว่า ควรยกเว้นให้กับสนามกอล์ฟที่จดทะเบียนภายใต้การกำกับดูแลของการกีฬาแห่งประเทศไทยเท่านั้น ส่วนสนามเอกชนที่เรียกเก็บค่าสมาชิกควรเสียภาษีที่ดินในหมวดพาณิชย์
อย่างไรก็ดีภาษีที่ดินจะเรียกเก็บเฉพาะที่ดินตามราคาประเมินของกรมธนารักษ์ที่ปรับขึ้นเฉลี่ย 5-20% ทุก 4 ปี ส่วนตัวบ้านหากเป็นบ้านเก่าแก่อายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป จะได้รับยกเว้นเพราะถือว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่เสื่อมสภาพ
สำหรับบ้านหลังแรกมีกมธ.ท่านหนึ่งเสนอ ให้กลับไปยึดที่ราคา 50 ล้านบาท ขึ้นไป เนื่องจากกระ ทรวงการคลังผ่านการเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนมาแล้ว รวมถึงการสำรวจปริมาณบ้านระดับราคา ดังกล่าวว่ามีกี่หลัง แต่ล่าสุดยังไม่เป็นมติเอกฉันท์
ด้านนายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และ ในฐานะกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกล่าวว่าเป็นผลดีสำหรับบุคคลธรรมดาซึ่งมีที่ดินแต่ไม่พัฒนาจะมีเวลาขายหรือทำประโยชน์ เข้าใจว่าการผ่อนผันครั้งนี้ ช่วยลดแรงกดดันของรัฐบาล ซึ่งอาจหวังผลทางการเมืองในอนาคต แต่ระยะยาวเกรงว่าเจ้าของที่ดินจะนำที่ดินออกขายหรือ การนำที่ดินออกมาทำการเกษตรเพิ่ม ซัพพลายในตลาดโดยไม่จำเป็น
นายอธิปกล่าวต่อว่า กรณีสนามกอล์ฟ ถือเป็นกีฬา ได้รับการยกเว้น เกรงจะกระทบต่อการท่องเที่ยว แต่คลับเฮาส์ในสนามกอล์ฟ ต้องจ่ายอัตราพาณิชย์ ส่วนสวนสัตว์เอกชน หากมีพื้นที่ขายของก็อยู่ในข่ายพาณิชย์ กงสัตว์ตัวสัตว์ ก็จะถูกกันออกไป ขึ้นกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง