นายนิยต มาศะวิสุทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) เปิดเผยว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ภาพรวมทรัพย์สินรอการขาย (เอ็นพีเอ) ของบริษัท พบว่ามีนักลงทุนให้ความสนใจเลือกซื้อที่ดินในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา จากบริษัทเพิ่มขึ้น มากกว่าในพื้นที่ปริมณฑล ซึ่งเป็นการทยอยเข้ามาซื้อ เพื่อเก็งกำไร ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนมืออยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้ราคาพื้นที่ดังกล่าวปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยวันที่ 8 มิ.ย.นี้ จะนำเอ็นพีเอ 2 พื้นที่ในอีอีซี ซึ่งเป็นที่ดินเปล่าประมูลในงาน บสส. น็อกเอาต์ เดย์ ให้ผู้ที่สนใจอีกด้วย

สำหรับที่ดินเปล่าเอ็นพีเอ 2 พื้นที่ในอีอีซี ประกอบด้วย จ.ระยอง ที่ดินเปล่า เนื้อที่ 6 ไร่เศษ ถนนสุขุมวิท ตรงข้ามนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง ราคาเริ่มต้น 79.39 ล้านบาท และ จ.ชลบุรี ที่ดินเปล่า เนื้อที่ 47 ไร่ อ.บ้านบึง ใกล้นิคมอุตสาหกรรมอมตะ ราคาเริ่มต้น 27.89 ล้านบาท รวมทั้งยังมีที่ดินในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และเขตหัวเมืองใหญ่ที่เติบโต มาเปิดประมูลให้กับนักลงทุนที่สนใจ เช่น กรุงเทพฯ ที่ดินเปล่า เนื้อที่ 36 ไร่เศษ ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ราคาขายขั้นต่ำ 115.59 ล้านบาท จ.เพชรบุรี  ที่ดินผืนสุดท้ายแหลมผักเบี้ย เนื้อที่ 124 ไร่เศษ ติดชายหาดแหลมหลวง ราคาขายขั้นต่ำ 197.69 ล้านบาท เป็นต้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทไตรมาสแรก ปี 61 จำหน่ายเอ็นพีเอได้ 1,375 ล้านบาท คิดเป็น 40% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3,200 ล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ทำให้นักลงทุน และประชาชนที่ต้องการที่อยู่อาศัยบ้านมือ 2 ให้ความสนใจเลือกซื้อเอ็นพีเอเพิ่มขึ้น เพราะทรัพย์สินที่ส่วนใหญ่ ตั้งอยู่ในทำเลดีมีศักยภาพ และราคาเหมาะสม โดยเฉพาะบ้านมือ 2 ที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาไม่ได้ขยับเร็วเหมือนบ้านใหม่