เร่งประมูล5โครงการอีอีซี ดัน อู่ตะเภา มหานครการบิน สมคิด โรดโชว์ดึงลงทุนเพิ่ม
กพอ.สั่งเร่งประมูล 5 โครงการลงทุนในอีอีซี มูลค่า 6 แสนล้านบาทปีนี้ พร้อมยกระดับ "อู่ตะเภา" สู่มหานครการบินภาคตะวันออก เชื่อมโครงการรถไฟความเร็วสูงและพัฒนาเมืองโดยรอบให้สอดคล้อง ส่วนโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน เริ่มขั้นตอนประมูล ก.ค.นี้ เฟส 2 เปิดเอกชนรายอื่นนอกจากการบินไทยเข้าลงทุน "สมคิด" ควง "บิ๊กตู่" โรดโชว์ยุโรป ต่อด้วยจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ดึงร่วมลงทุน อีอีซีเพิ่ม ตั้งเป้า 5 ปี เม็ดเงินลงทุนสูงถึง 1.37 ล้านล้านบาท
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุม กพอ. ครั้งที่ 1/2561 ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วานนี้ (4 มิ.ย.) ว่า ที่ประชุม กพอ. มีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) และเห็นชอบในหลักการการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ และให้ กบอ.พิจารณา นำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายต่อไป
สำหรับ 5 โครงการสำคัญในพื้นที่พัฒนาอีอีซี ที่รัฐบาลเร่งผลักดันให้สำเร็จในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ประกอบด้วย 1.สนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก 2.ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา 3.รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (อู่ตะเภา สุวรรณภูมิ ดอนเมือง) 4. ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 และ 5.ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 รวมวงเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 600,000 ล้านบาท คาดจะสามารถเร่งรัดให้ได้ผู้ชนะการประมูลทั้ง 5 โครงการ ภายในปีนี้ หลังจากโครงการพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เริ่มประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าลงทุน เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา
นายคณิศกล่าวว่า สำหรับโครงการพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออกนั้น อยู่ระหว่างปรับแก้แบบใช้พื้นที่ในภาพรวมของโครงการที่มีพื้นที่อยู่ 6,500 ไร่ เนื่องจาก แบบรันเวย์ที่ 2 มีปัญหาพื้นที่ติดภูเขาและมอเตอร์เวย์ และคาดว่าเดือน มิ.ย.นี้ จะออกแบบเสร็จแล้วเสนอรัฐพิจารณา และเปิดให้เอกชนร่วมทุนตามพื้นที่ที่สนใจภายในไตรมาส 4 ปี 2561 ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เร่งรัดการพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออกที่สนามบินอู่ตะเภา เพื่อให้เชื่อมโยงกับรถไฟความเร็วสูงตรงเวลาและวางแผนการขยายตัวของเมืองรอบๆ ข้างให้เป็นระบบ
ด้านโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงท่าอากาศยาน อู่ตะเภา จะเริ่มขั้นตอนเปิดประมูลเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งพื้นที่ตอนนี้ ทางการบินไทยแจ้งขอใช้เพียง 210 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมด 570 ไร่ ทำให้มีพื้นที่เหลือ ดังนั้น มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลอาจจะเปิดกว้างให้เอกชนที่สนใจลงทุนศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานได้เลย จากเดิมจะให้การบินไทยทำก่อนเป็นระยะที่ 1 และอาจจะเปิดให้เอกชนรายอื่นลงทุนระยะที่ 2 ซึ่งขณะนี้มีเอกชนแสดงความจำนง 4-5 ราย เช่น แอร์เอเชีย นักลงทุนอเมริกา และจีน เป็นต้น
ขณะที่ความก้าวหน้าการพัฒนาเมืองใหม่อัจฉริยะน่าอยู่ในพื้นที่อีอีซีนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการโดยจำเป็นต้องประกอบด้วย 6 ลักษณะ ได้แก่ ชุมชนอัจฉริยะ สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ การคมนาคมขนส่งอัจฉริยะ พลังงานอัจฉริยะ เศรษฐกิจอัจฉริยะ และการบริหารจัดการอัจฉริยะ
นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ มีกำหนดการเดินทางไปเยือนสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) และฝรั่งเศส อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 20-25 มิ.ย.นี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และสานต่อสัญญาความร่วมมือที่บริษัท การบิน ไทย จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามร่วมกับบริษัท แอร์บัส เพื่อประเมินโอกาสธุรกิจของโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา เพื่อเป็นศูนย์กลางการซ่อมบำรุงอากาศยานระดับโลก ซึ่งลงนามตั้งแต่เดือน ธ.ค.2560
นอกจากนี้ จะร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จัดโรดโชว์ชักจูงนักลงทุนจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ให้เข้ามาลงทุนในอีอีซีเพิ่ม โดยคาดว่าในช่วง 5 ปี นับจากนี้ การลงทุนในพื้นที่อีอีซีจะมีการลงทุนรวมสูงถึง 43,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.376 ล้านล้านบาท