โลจิสติกส์จีนนำร่องอีอีซี 5พันล.
กลุ่มทุน 2 รายจากจีน ควงแขนพบ"สมคิด"แสดงความต้องการ ลงทุนในอีอีซี "เบสต์ โลจิสติกส์" ประเดิม 5 พันล้านภายในปีนี้ ตั้งศูนย์โลจิสติกส์ครบวงจร ไทยเป็นฐานเชื่อมภูมิภาค ให้บริการทั้งอาลีบาบาและรายอื่น ส่วนบีวายดีขอลงทุนระบบรางขนาดเล็กโยงขนส่งในสมาร์ทซิตี้ด้วยระบบไฟฟ้าเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม
ทยอยเข้ามาอย่างไม่ขาดสายสำหรับทุนต่างชาติ ล่าสุด 2 นักลงทุนรายใหญ่จากสาธารณรัฐประชาชนจีน แสดงความจำนงในการเข้ามาลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
ภายหลังหารือกับนาย หวัง ฉวนฟู่ (Wang Chuanfu) ประธานบริหารบริษัท บีวายดี จำกัด และนายจอห์นนี่ ชู (Johnny Chou) ประธานบริหารบริษัท เบสต์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี จำกัด จากจีน วานนี้ (14 มิ.ย.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า บริษัท เบสต์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี จำกัด เป็นบริษัทโลจิสติกส์ ขนาดใหญ่ของประเทศจีน และมีบริษัท อาลีบาบา เป็นผู้ถือหุ้น ซึ่งบริษัทต้องการลงทุนในไทยเนื่องจากเห็นการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั้งในไทยและภูมิภาค ส่วนบริษัท บีวายดี จำกัด ก็มีความเชี่ยวชาญ ด้านไอที รถยนต์ พลังงานใหม่และระบบรางที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับรถไฟฟ้า
"ทั้งสองบริษัทต้องการเข้ามาลงทุนในอีอีซีโดยบริษัท บีวายดี อยากจะเข้ามาทำในเรื่องของการขนส่งด้วยระบบรางรถไฟฟ้าที่วิ่งบนรางเหมือนกับการขนส่งในเมืองขนาดเล็กซึ่งมีความสะดวกและเป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อมซึ่งได้เชิญชวนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุนสมาร์ทซิตี้ในพื้นที่อีอีซี" นายสมคิดกล่าว
นายจอห์นนี่ ชู กล่าวว่า ธุรกิจ โลจิสติกส์ของบริษัทเป็นการให้บริการแบบครบวงจรทั้งทางทะเล ถนน เครื่องบิน ระบบออนไลน์และออฟไลน์ รวมไปถึง ระบบการจัดการคลังสินค้า ห่วงโซ่อุปทาน การขนส่งสินค้าออกนอกประเทศ โดยบริษัทมีแผนที่จะลงทุนในพื้นที่อีอีซีในวงเงิน 5,000 ล้านบาท ภายในปีนี้ โดยได้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม การลงทุน (บีโอไอ) แล้ว ซึ่งตามแผนการลงทุนประกอบไปด้วย เทคโนโลยี โลจิสติกส์ ศูนย์ฝึกอบรมเรื่องโลจิสติกส์ ศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ในเรื่องเกี่ยวกับโลจิสติกส์ และคลังสินค้า
การตัดสินใจลงทุนด้านโลจิสติกส์ในไทย เนื่องจากเห็นว่าไทยมีศักยภาพและเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่ออาเซียน ซึ่งประเทศในอาเซียนกำลังพัฒนาขึ้นมาก ขณะที่การค้าอีคอมเมิร์ซ ต้องอาศัยการจัดการเทคโนโลยีโลจิสติกส์ที่ทันสมัย จะช่วยส่งเสริมให้อีคอมเมิร์ซเติบโตไปได้ ซึ่งในธุรกิจนี้ยังมีช่องว่างให้เติบโตได้อีกมาก โดยสินค้าของไทยที่มีศักยภาพสามารถส่งออกไปจีนได้ที่เห็นขณะนี้คือเครื่องสำอาง และด้านอาหาร
ส่วนนายหวัง ฉวนฟู่ เปิดเผยว่า ต้องการมานำเสนอระบบเทคโนโลยีของ บริษัทที่สามารถนำมาใช้ได้ในไทย โดยเฉพาะรถไฟฟ้ารางเบาขนาดเล็ก สามารถใช้ในอีอีซีได้ช่วยลดปัญหามลภาวะ และลดความแออัดของคมนาคม ซึ่งสามารถร่วมมือกับบริษัทไทยในการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ได้