เจ.เอส.พี. ล้มดีลจงเทียน พับแผนลงทุนเมกะโปรเจ็กต์บางเสร่หมื่นล้าน
Loading

เจ.เอส.พี. ล้มดีลจงเทียน พับแผนลงทุนเมกะโปรเจ็กต์บางเสร่หมื่นล้าน

วันที่ : 1 กรกฎาคม 2561
เจ.เอส.พี. ล้มดีลจงเทียน พับแผนลงทุนเมกะโปรเจ็กต์บางเสร่หมื่นล้าน

ภาพรวมตลาดอสังหาในพื้นที่อีอีซี ในปี 2560 มีประมาณ 60,000 ล้านบาท

เจ.เอส.พี.พับแผนเมกะโปรเจ็กต์มูลค่า 1 หมื่นล้านบาทที่บางเสร่ ชลบุรี พร้อมล้มดีลร่วมทุนจงเทียน คอนสตรัคชั่น หลังปรับยุทธศาสตร์ลงทุนใหม่ เผยมีทุนจีน 4-5 กลุ่มสนใจซื้อที่ดิน 151 ไร่

นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนลงทุนอสังหา ริมทรัพย์ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก หรืออีอีซี ว่า จากเดิมที่เคยร่วมลงทุนกับบริษัท จงเทียน คอนสตรัคชั่นฯ ผู้รับเหมารายใหญ่ระดับท็อปไฟว์จากประเทศจีน พัฒนาโครงการมิกซ์ยูสมูลค่าโครงการประมาณ 1 หมื่นล้านบาท บนพื้นที่กว่า 180 ไร่ ติดถนนสุขุมวิท ตำบลบางเสร่ จังหวัดชลบุรี แต่เมื่อบริษัทปรับโครง สร้างใหม่ พร้อมแผนธุรกิจเน้นพัฒนาโครงการระดับมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท จึงไม่สอดคล้องกัน ประกอบกับพันธมิตรจากจีนรายนี้ยังไม่มีแผนลงทุนที่ชัดเจน ทำให้บริษัทเลิกแผนพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์ที่ชลบุรี

สำหรับพื้นที่กว่า 180 ไร่ที่ซื้อเตรียมพัฒนาโครงการนั้น ก่อนหน้านี้ นายทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา อดีตประธานกรรมการบริหารของ เจ.เอส.พี. ให้รายละเอียดว่า ด้านหน้าติดถนนสุขุมวิท ด้านหลังติดทะเล อยู่ในทำเลใกล้กับสนามบินอู่ตะเภา และรอบข้างยังมีโครงการรถไฟความเร็วสูง และโครงการพิเศษสายบูรพาวิถี-พัทยา ซึ่งจะเชื่อมต่อท่าเรือแหลมฉบังไปพื้นที่ต่างๆในทุกรูปแบบ

ล่าสุดคณะกรรมการของ บริษัท มีมติให้ขาย เพื่อนำเม็ดเงินมาใช้กับโครงการใหม่ๆของบริษัท ล่าสุดมีนักลงทุนชาวไทยสนใจพื้นที่ติดทะเล 11 ไร่ ราคาไร่ละ 32 ล้านบาท โดยได้วางเงินจองและทำสัญญา 90 ล้านบาท ส่วนพื้นที่ส่วนใหญ่อีก 151 ไร่ ซึ่งด้านหน้าติดถนนสุขุมวิทและด้านหลังติดทะเล มีทุนจีน 4-5 ราย ให้ความสนใจติดต่อเข้ามา

ภาพรวมตลาดอสังหา ริมทรัพย์ในพื้นที่อีอีซี 3 จังหวัดมีชลบุรี ระยองและฉะเชิงเทรา ในปี 2560 มีประมาณ 60,000 ล้านบาท โดย 75% อยู่ที่ชลบุรี มูลค่า 45,000 ล้านบาท รองลงมาได้แก่ระยอง 3,100 ล้านบาท และฉะเชิงเทรา มูลค่า 3,000 ล้านบาท สำหรับไตรมาส 1 ปี 2561 ตลาดอสังหาฯในอีอีซี มีมูลค่า 12,000 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปี 2560 มีอัตราการเติบโต 40% โดยชลบุรีมีการเติบโตสูงสุด 50% มูลค่า 13,000 ล้านบาท

ส่วน เจ.เอส.พี. ได้มีการทำโครงการทั้งจังหวัดฉะเชิงเทราและชลบุรี โดยในโซนชลบุรี เจ.เอส.พี.มีโครงการที่ศรีราชา ได้แก่ เจซิตี้ ศรีราชา-อัสสัมชัญ มูลค่าโครงการ 730 ล้านบาท ถือเป็นแลนด์มาร์กเพราะมีจุดเด่นติดโรงเรียนอัสสัมชัญ, ห้างโรบินสัน และใกล้รถไฟฟ้าความเร็วสูง ซึ่งมีความสะดวกในการใช้ชีวิต อยู่ใกล้ดิจิทัลพาร์ค ขณะที่จังหวัดฉะเชิงเทราได้เปิดโครงการเจ.เอส.พี. ซิตี้บางปะกง มูลค่า 1,400 ล้านบาท มีจุดเด่นที่ทำเลบางปะกงที่ติดถนนใหญ่ และใกล้มอเตอร์เวย์ที่เดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิและกรุงเทพฯสะดวก ถือเป็นเส้นทางหน้าด่านสำคัญในด้านโลจิสติกส์ในทำเลอีอีซี

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ข่าวเขตเศรษฐกิจพิเศษ อื่นๆ