เอสซีจีรุกหนักเมียนมา
Loading

เอสซีจีรุกหนักเมียนมา

วันที่ : 15 พฤศจิกายน 2561
นายปรเมศวร์ นิสากรเสน รองประธานฝ่ายธุรกิจภูมิภาค บริษัท ปูนซิเมนต์ ไทย หรือเอสซีจี เปิดเผยว่า บริษัทกำลังก่อสร้างห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและ ตกแต่งบ้านในเมียนมา หรือโปรวัน-โกลบอล (PRO1-Global) เพิ่มเติมอีก 2 แห่ง จากเดิมที่มีอยู่ 6 แห่งทั่วประเทศ หลังอุตสาหกรรมการก่อสร้างในเมียนมามีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะได้แรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาเปิดโรงงานในเมียนมามากขึ้น
          จ่อเปิดร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างอีก2สาขา รับอุตสาหกรรมไหลเข้า

          เอสซีจีเผยเตรียมเปิดห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างในเมียนมาเพิ่ม พร้อมรับตลาดวัสดุก่อสร้างโต

          นายปรเมศวร์ นิสากรเสน รองประธานฝ่ายธุรกิจภูมิภาค บริษัท ปูนซิเมนต์ ไทย หรือเอสซีจี เปิดเผยว่า บริษัทกำลังก่อสร้างห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและ ตกแต่งบ้านในเมียนมา หรือโปรวัน-โกลบอล (PRO1-Global) เพิ่มเติมอีก 2 แห่ง จากเดิมที่มีอยู่ 6 แห่งทั่วประเทศ หลังอุตสาหกรรมการก่อสร้างในเมียนมามีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะได้แรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาเปิดโรงงานในเมียนมามากขึ้น

          สำหรับสาขาใหม่ของโปรวัน-โกลบอล ที่กำลังก่อสร้างจะตั้งอยู่ในเมืองตองยี รัฐฉาน ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้อย่างเต็มรูปแบบในต้นปี 2019 โดยถือเป็นสาขาที่ 7 จากเดิมที่มีอยู่ในย่างกุ้ง 3 สาขา มัณฑะเลย์ 2 สาขา และเมาะลำไยอีก 1 สาขา

          "ธุรกิจวัสดุก่อสร้างในเมียนมาเติบโตเร็วมากในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันภาพรวมค่อนข้างทรงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการก่อสร้างที่อยู่อาศัย เนื่องจากมีซัพพลายเข้ามาเยอะมาก แต่ถึงกระนั้นแล้วภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่กำลังเติบโต เพราะนักลงทุนต่างชาติเริ่มเข้ามาลงทุนหลังรัฐบาลเปิดกว้างด้านกฎหมายมากขึ้น ก็กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้ธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างเติบโตได้เพิ่มขึ้น" นายปรเมศวร์ กล่าว

          ด้าน นิกเกอิ เอเชียน รีวิว ระบุว่า การลงทุนด้านอุตสาหกรรมการผลิตในเมียนมาเพิ่มขึ้นมากถึง 50% ในปีที่ผ่านมา แตะระดับ 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.6 หมื่นล้านบาท) นับเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี โดยส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องนุ่งห่ม

          นอกจากนี้ นายปรเมศวร์ ยังได้ระบุว่า ธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างในเมียนมาของเอสซีจีค่อนข้างได้เปรียบเรื่องชื่อเสียงของแบรนด์ ซึ่งเป็นที่คุ้นเคยของชาวเมียนมา เพราะเอสซีจีเข้ามาทำธุรกิจวัสดุก่อสร้างในประเทศนี้มานานกว่า 20 ปี อีกทั้งเอสซีจี ยังเป็นบริษัทเดียวที่มาดำเนินธุรกิจห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างแบบครบครันในเมียนมา ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีคู่แข่งท้องถิ่นและคู่แข่งจากต่างชาติเข้ามา

          อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เข้าไปเปิดธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างในเมียนมาในปี 2014 รายได้ของธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปีที่ผ่านมาโปรวัน-โกลบอลมีรายได้กว่า 3,600 ล้านบาท โดยคิดเป็นเกือบ 30% ของรายได้ธุรกิจเอสซีจีในเมียนมา ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1-2 ล้านบาท โดยขึ้นอยู่กับศักยภาพของกำลังซื้อในแต่ละพื้นที่

          ทั้งนี้ โปรวัน-โกลบอลเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างโกลบอลเฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (จีบีไอ) หนึ่งในบริษัทที่เอสซีจี เข้าไปร่วมทุนกับโปรวัน บริษัทส่งออกและนำเข้าของเมียนมา โดยปัจจุบันจีบีไอถือหุ้นที่ 30% และโปรวันถือหุ้น 70%
 
ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ