อสังหาฯ หวังตลาดปี65ฟื้นชงรัฐต่ออายุลดค่าโอนฯ
Loading

อสังหาฯ หวังตลาดปี65ฟื้นชงรัฐต่ออายุลดค่าโอนฯ

วันที่ : 26 ตุลาคม 2564
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เเจง มาตรการแอลทีวีเพียงมาตรการเดียว คงไม่สามารถช่วยฉุดเศรษฐกิจไทยให้ไปข้างหน้าได้ต้องทำควบคู่กับมาตรการทางการคลังในทิศทางเดียวกัน เช่น การลดค่าธรรมเนียมและค่าภาษี ให้กับที่อยู่อาศัยทุกระดับราคา
          ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯแนะรัฐบาลขยายเวลาลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนอง พร้อมปรับเพดานราคามากกว่า 3 ล้านบาท  คลุมตลาดบ้าน มือสองมูลค่า 8 แสนล้าน เร่งกระตุ้นตลาด หวังปี 65 ฟื้น

          นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ว่า การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  ผ่อนคลายมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยหรือแอลทีวี (LTV) เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. 2564 จนถึงสิ้นปี 2565 เพื่อเพิ่มเม็ดเงินใหม่ เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหา ริมทรัพย์ซึ่งมีธุรกิจเกี่ยวเนื่องจำนวนมาก นั้นจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหา ริมทรัพย์ในปี 2564 และ 2565 ได้หรือไม่ มากน้อยแค่ไหน ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอีกหลายด้าน

          จึงขอให้ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ ดังนี้  การผ่อนคลายแอลทีวี เป็นมาตรการทางการเงินทำหน้าที่กระตุ้นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและมีความสามารถในผ่อนชำระหนี้ให้มาซื้อและสร้างหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยขึ้น ซึ่งจะช่วยระบายที่อยู่อาศัยใหม่ในโค้งสุดท้าย ที่เหลือขายทั้งหมดกว่า  283,500 ยูนิต โดยช่วยยอดขายในปี 2564 ได้เกินกว่า 100,000 ยูนิต คิดเป็นจำนวนเงิน ไม่น้อยกว่า 500,000 ล้านบาท ไม่นับรวม ที่อยู่อาศัยมือสองที่มีอุปทานรอการซื้อ อีกมากกว่า 100,000 ยูนิต และอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยที่จะช่วยให้ มีมูลค่าในการผลิตสูงเช่นกัน ซึ่งจะ ก่อให้เกิดการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอีกมาก ดังนั้น มาตรการนี้จะเป็นเสมือนเครื่องมือฉุดเศรษฐกิจที่ติดหล่มกลับขึ้นมาและให้เคลื่อนไปข้างหน้าได้

          "มาตรการแอลทีวีเพียงมาตรการเดียว คงไม่สามารถช่วยฉุดเศรษฐกิจไทยให้ไปข้างหน้าได้ต้องทำควบคู่กับมาตรการทางการคลังในทิศทางเดียวกัน เช่น การลดค่าธรรมเนียมและค่าภาษี ให้กับที่อยู่อาศัยทุกระดับราคา กล่าวคือการผ่อนคลายมาตรการแอลทีวีทำให้สามารถใช้ได้กับที่อยู่อาศัย การให้สินเชื่อในทุกระดับราคาและ รวมถึงที่อยู่อาศัยมือสองด้วย" ทว่ามาตรการด้านการคลังในเรื่องสิทธิประโยชน์ด้านการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าธรรมเนียมการจดจำนองที่ยังคงจำกัดกับกลุ่มที่ซื้อที่อยู่อาศัยใหม่จากผู้ประกอบการและกลุ่มผู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นได้ว่าการกำหนดกลุ่มเป้าหมายนั้นต่างกัน จะทำให้มาตรการ ที่ออกมาจะมีสัมฤทธิ์ผลต่ำกว่าที่คาดไว้ได้

         ดังนั้นจึงควรจะไปในทางเดียวกัน โดยเปิดสิทธิประโยชน์แก่ผู้ซื้อ ที่อยู่อาศัยทุกระดับราคาและกลุ่ม ที่อยู่อาศัยมือสอง เพื่อช่วยสร้าง แรงจูงใจสำหรับกลุ่มที่มีกำลังซื้อและมีความสามารถในผ่อนการชำระหนี้ ทุกกลุ่มให้เข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยใน ตลาด เพราะกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อ ในปัจจุบันมักจะต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่มากกว่า 3 ล้านบาท ที่อยู่อาศัยมือสองเป็นตลาด ที่สำคัญและไม่ควรมองข้าม เนื่องจากมีการประกาศขายทุก ๆ เดือนเฉลี่ยเดือนละ 114,000 ยูนิต และ มีมูลค่าถึง 800,000 ล้านบาท ซึ่งมีขนาดตลาด ที่ใหญ่มาก และโดยส่วนใหญ่ของ ผู้ขายที่อยู่อาศัยมือสองก็จะใช้เงิน ที่ขายซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ด้วย เนื่องจากต้องการพื้นที่ใช้สอยในที่อยู่อาศัย ที่เปลี่ยนแปลงไปตามความจำเป็นในการดำเนินชีวิต และการซื้อขายที่อยู่อาศัยมือสองจะช่วยให้มีเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายเงินของผู้ขายที่ขายที่อยู่อาศัยมือสองได้ และการจ่ายค่าซ่อมแซม ตกแต่ง ต่อเติม อีกด้วย

          ความสำเร็จของมาตรการแอลทีวีมีข้อสังเกตว่าน่าจะส่งผลบวกต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 ไม่มากนัก เนื่องจากมาตรการออกมาในช่วง 2 เดือนก่อนสิ้นปี 2564 อาจกล่าวได้ว่า การ ผ่อนคลายของมาตรการแอลทีวีนี้ ออกมาในสถานการณ์ของภาคอสังหา ริมทรัพย์ที่ค่อนข้างลำบากแล้ว แต่ก็เป็นเงื่อนไขที่ดีที่มีช่วงเวลาใน การผ่อนคลายแอลทีวีให้ถึงสิ้นปี 2565 ซึ่งจะช่วยให้ภาคอสังหาริมทรัพย์และภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมฟื้นตัวจาก ปี 2564 ตามที่ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ได้คาดการณ์ไว้