“NCH” แย้มผลงานครึ่งปีแรกสวย! หนุนทั้งปีมีโอกาสทะลุเป้าที่คาดรายได้รวม 2,000 ล้านบาท และยอดขาย 3,600 ล้านบาท หลังความต้องการสินค้าแนวราบพุ่ง เล็งเปิดใหม่ 4-5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 3,500 ล้านบาทในช่วงครึ่งหลัง

          นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 ทั้งรายได้ และยอดขาย (Presale) คาดว่าจะสามารถเติบโตทะลุเป้าหมายที่วางไว้ได้ จากความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทโครงการแนวราบที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง และมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา

          ทั้งนี้ ในปี 2564 บริษัทวางเป้าหมายจะมีรายได้รวม 2,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/2564 บริษัทมีรายได้รวมแล้ว 902.38 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 45% ของเป้าหมายรายได้ทั้งปี ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินในช่วงไตรมาส 2/2564 ยังคงเติบโตมากกว่าเป้าหมายภายในที่บริษัทวางไว้ ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาอนุมัติงบการเงินในวันที่ 13 สิงหาคม 2564

          โดยเบื้องต้นบริษัทคาดว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 น่าจะมีรายได้ประมาณ 60-70% ของเป้าหมายทั้งปี ซึ่งจะมาจากการทยอยส่งมอบโครงการตามแผน ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะสามารถดำเนินงานได้ตามแผนที่วางไว้ และคาดว่ารายได้ในปี 2564 มีโอกาสเติบโตทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้

          ขณะที่ล่าสุดบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ารวมกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งมาจากโครงการแนวราบทั้งหมด จะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดในช่วงที่เหลือของปี 2564 นอกจากนี้ ยังมีสินค้าพร้อมขาย (Inventory) มูลค่ารวมประมาณ 800-900 ล้านบาท ซึ่งรองรับการขายในช่วง 2-3 เดือน โดยเป็นสินค้าพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ทันทีประมาณ 300-400 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นสินค้าใกล้เสร็จ จะใช้ระยะเวลาในการเก็บงานเพียงสั้น ๆ ก็สามารถส่งมอบได้

          นายสมนึก กล่าวต่อว่า ยอดขาย (Presale) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 อยู่ที่ระดับประมาณ 2,100-2,200 ล้านบาท เติบโตประมาณ 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็นประมาณ 60-70% ของเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 3,600 ล้านบาท ซึ่งหลัก ๆ มาจากการขายสินค้าแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ที่ยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่ง

          ปีแรกบริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,200 ล้านบาท

          “ยอดขายในช่วงครึ่งแรกเกิดขึ้นจากความต้องการสินค้าแนวราบที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง จากพฤติกรรมของประชาชนที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปีก่อน จากความกังวลในการใช้ชีวิตภายใต้วิกฤติโควิด-19 ที่ยังไม่มีความแน่นอน การทำงานที่บ้าน (Work from Home) มากขึ้น จึงต้องการมีพื้นที่กว้างขึ้น ด้านกำลังซื้อในกลุ่มกลาง-บนยังคงดี เห็นได้จากลูกค้าบางรายที่มีคอนโดมิเนียมอยู่แล้ว แต่ก็ยังมาซื้อโครงการแนวราบเพิ่ม” นายสมนึก กล่าว

          สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 4-5 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 3,500 ล้านบาท ซึ่งจะมีทั้งโครงการประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม โดยในช่วงไตรมาส 3/2564 บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 2-3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 1,500 ล้านบาท จะทยอยเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4/2564

          ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังยังคงมีความไม่แน่นอนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้กิจกรรมต่าง ๆ ชะลอลง และทำได้ยากขึ้น หรือทำได้ในวงจำกัด แต่สถานการณ์ดังกล่าวก็จะเป็นปัจจัยเร่งกระบวนการบริโภคให้มีมากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยส่งผลให้ความต้องการเพิ่มขึ้น สวนกับภาพรวมตลาดที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าภาพรวมตลาดในช่วงครึ่งปีหลังยังคงมีสัญญาณในเชิงบวก

          ส่วนกรณีที่ภาครัฐมีมาตรการปิดแคมป์ก่อสร้างเป็นระยะเวลา 30 วัน ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ NCH โดยตรง แต่จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย เชื่อว่าจะสามารถกลับมาดำเนินงานได้ตามแผน ขณะที่กรณีของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีความรุนแรงขึ้น จนมีการล็อกดาวน์พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ ดังนั้น ปัจจุบันจึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด