นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า รายงานสรุปผลการสำรวจอุปทานและอุปสงค์ของโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในช่วงครึ่งหลังปี 2563 ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล นับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย

          พบว่ามีที่อยู่อาศัยเสนอขายจำนวนรวม 210,748 หน่วย เพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งแรกปี 2563 ประมาณร้อยละ 0.4 โดยมีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ 34,575 หน่วย ในขณะที่จำนวนหน่วยเหลือขายรวม 176,173 หน่วย โดยเป็นหน่วยสร้างเสร็จเหลือขาย 51,675 หน่วย มูลค่ารวมกว่า 235,840 ล้านบาท

          ส่วนคาดการณ์ปี 2564 จะมีที่อยู่อาศัยเหลือขายสะสมจำนวนประมาณ 174,773 หน่วย คิดเป็นมูลค่ารวม 853,428 ล้านบาท ขณะที่ประเมินสถานการณ์โดยภาพรวมคาดการณ์ว่าตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลในปี 2564 ยังคงมีภาวะชะลอตัวต่อเนื่องจากปี 2563 โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อตลาดรวมให้มีภาวะหดตัวต่อเนื่องประมาณ 1-4% ซึ่งตลาดจะเริ่มฟื้นตัวช่วงครึ่งหลังของปี แต่ยังไม่ดีขึ้นมาก

          ทั้งนี้ จากการประมวลผลสำรวจโดยภาพรวมพบว่าตลาดบ้านจัดสรรต้องให้ความสำคัญกับปริมาณเปิดตัวใหม่ที่เข้ามาในระบบ เนื่องจากมีจำนวนและสัดส่วนสูงกว่าคอนโดมิเนียมในตลาดแล้ว ส่วนตลาดคอนโดฯ ยังต้องให้ความสำคัญกับการเร่งระบายหน่วยที่สร้างเสร็จแล้วเหลือขาย เพราะแทบไม่ลดลงเลยแม้ว่าหน่วยเข้าใหม่มีน้อย