ทุ่มแสนล.ผุดรร.-มิกซ์ยูส-แหล่งท่องเที่ยว40โครงการ

          รถไฟรางเบา-สนามบินภูเก็ตแห่งที่ 2 เมกะโปรเจ็กต์ บูมท่องเที่ยวภูเก็ต ทุนใหญ่ไทย-เทศ ลงทุนโรงแรม มิกซ์ยูส ร่วม 40 โครงการ ค่าไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ด้านซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ ชี้เทรนด์ลงทุนเน้นผสมผสานระหว่างค้าปลีกและท่องเที่ยว

          จากแผนขยายการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น สำหรับ 2 โครงการใหญ่ในจ.ภูเก็ต คือโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบา ระยะทาง 58.5 กิโลเมตร จำนวน 24 สถานี เชื่อมจากท่านุ่น จ.พังงา ผ่านสนามบินภูเก็ต ไปจนถึงห้าแยกฉลอง มูลค่าการลงทุน 3.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งอยู่ในแผนการร่วมทุน PPP คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปี 2563 แล้วเสร็จปี 2566 และโครงการการก่อสร้างสนามบินภูเก็ตแห่งที่ 2 ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือทอท.ที่อยู่ต.โคกกลอย จ.พังงา คาดเปิดให้บริการในปี 2568 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มอีกปีละ 10 ล้านคน

          โครงการเหล่านี้ไม่เพียงช่วยตอบสนองการเดินทางท่องเที่ยวในภูเก็ตให้สะดวกมากขึ้น แต่ยังเอื้อให้ภูเก็ต ยังคงเป็นเมืองที่น่าลงทุน เพื่อรองรับการขยายตัวด้านการท่องเที่ยว

          จากการสำรวจของ "ฐานเศรษฐกิจ" พบว่า ในขณะนี้มีการลงทุนของภาคเอกชนทั้งไทยและต่างชาติ เป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 40 โครงการ รวมมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโรงแรมใหม่ โครงการมิกซ์ยูส ที่จากข้อมูลของ ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ คาดว่า จะมี 36 แห่งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งการลงทุนโรงแรมหรูในภูเก็ต ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนของกลุ่มทุนใหญ่ของไทย อาทิ ทีซีซี แลนด์, ซิซซา กรุ๊ป, พราวเรียลเอสเตท, เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์, แสนสิริ (ตารางประกอบ)

          นอกจากนี้ยังมีการลงทุนแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการ "บลูทรี ภูเก็ต" บนพื้นที่กว่า 140 ไร่ ซึ่งการพัฒนาในระยะแรกจะลงทุนบนพื้นที่ 70 ไร่ ในการสร้าง "เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์" แห่งแรกของภูเก็ต บนพื้นที่กว่า 146 ไร่ ของกลุ่มกองทุนยุโรป ลงทุนกว่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.5 พันล้านบาท) ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่บริการด้านการพักผ่อนและศูนย์รวมกีฬาทางน้ำอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น บีชคลับ 4 ชั้น, ฟิตเนสโซน, คิดส์คลับ, ร้านอาหาร 17 ร้าน ทั้งภัตตาคารและอาหารราคาประหยัด และพื้นที่ศูนย์การค้า โครงการสวนน้ำ "วานา นาวา ภูเก็ต"  โครงการขยายเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ลงทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาท ทั้งยังมีพื้นที่ของเดอะมอลล์กรุ๊ป ซึ่งมีแผนจะลงทุนศูนย์การค้า เป็นต้น

          นายบิล บาร์เน็ต กรรมการผู้จัดการ ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ภูเก็ตกำลังค่อยๆ เปลี่ยนไปสู่การเป็นจุดหมายปลายทางในวันหยุดที่มีลักษณะเป็นเมืองมากกว่าที่จะเป็นสถานที่พักผ่อนริมชายหาด โดยจะเริ่มเห็นรีสอร์ตที่มีร้านค้าปลีก (Resort-oriented retail) เพิ่มขึ้นจำนวนมาก จากข้อมูลของเรา แสดงให้เห็นว่า พื้นที่กว่า 2 แสนตารางเมตร กำลังพัฒนาเป็นโครงการโรงแรมและร้านค้าระดับไฮเอนด์ในอนาคตอันใกล้นี้

          อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น สวนน้ำวานา นาวา, บลูทรี ภูเก็ต, และอควาเรีย (อควาเรียมรูปแบบใหม่) เซ็นทรัล ภูเก็ต การผสมผสานระหว่างการค้าปลีกและการท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดบนเกาะภูเก็ตที่เติบโตตั้งแต่อำเภอกะทู้ไปจนถึงหาดป่าตอง         เมื่อพิจารณาจากประเภทโรงแรม ปัจจุบันภูเก็ตมีโรงแรมทั้งสิ้น 1,744 แห่ง รวม 84,427 ห้อง (ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 2561) ซึ่งมีทั้งที่จดทะเบียนและไม่จดทะเบียน และมีโรงแรมใหม่ 36 แห่งที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา โดย 27 แห่งเป็นแบรนด์โรงแรมระดับนานาชาติ

          นอกจากนี้ด้วยความตั้งใจที่จะดึงดูดผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ยังประกอบด้วยโครงการมิกซ์ยูส อีก 10 แห่งที่กำลังจะเกิดขึ้น อาทิ โครงการ MontAzure โดยภายในแต่ละโครงการจะประกอบด้วยส่วนของโรงแรมกึ่งเรสิเดนซ์ คิดเป็น 28% ของทั้งหมด

          ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รูปแบบความต้องการท่องเที่ยวของตลาดเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยนักท่องเที่ยวมองหากิจกรรมนอกชายฝั่งที่ไม่ใช่บนชายหาดเพิ่มมากขึ้น ผลมาจากกำลังซื้อที่แข็งแกร่งขึ้นของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวจีน รัสเซีย และออสเตรเลีย ส่งผลให้ภูเก็ตมีการพัฒนาพื้นที่ค้าปลีกและสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของนักท่องเที่ยวนี้ สะท้อนให้เห็นผลการดำเนินงานโรงแรมในภูเก็ต สอดคล้องกับรายงาน STR พบว่า ในปี 2563 โรงแรมระดับกลางจะมีการเติบโตสูงสุดถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

          การลงทุนสนามบินแห่งที่2 ของทอท.มูลค่ากว่า 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯซึ่งอยู่ติดกับสะพานสารสิน จ.พังงา เป็นสัญญาณดีมาก ช่วยสร้างพื้นที่ท่องเที่ยวของภูเก็ตให้กว้างใหญ่ขึ้น ซึ่งรวมถึงอ่าวพังงาและจากหาดนาใต้ ท้ายเหมือง ทำให้เกิดความหลากหลายและเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ที่น่าสนใจดึงดูดนักท่องเที่ยวยิ่งขึ้น

          นายอรรถนพ พันธุกำเหนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด เผยว่าบริษัทมีแผนลงทุน 2 โครงการในภูเก็ตได้แก่  วินแดม หาดในหาน บีช ภูเก็ต และ วินแดม ฉลอง ภูเก็ต ลงทุนราว 3.8 พันล้านบาท โดยในส่วนของวินแดม หาดในหาน จะมีทั้งหมด 12 อาคาร รวมห้องพัก 353 ห้อง ซึ่งจะเป็นการพัฒนาอสังหา ริมทรัพย์เพื่อการลงทุน แล้วนำทั้งโครงการมาพัฒนาเป็นโรงแรม ภายใต้การบริหารของ WYNDHAM โดยขายห้องเริ่มต้น 6.5 ล้านบาท ผู้ซื้อจะได้สิทธิเข้าพักในโรงแรมฟรี 30 วันต่อปี การันตีผลตอบแทนการลงทุน 2 ปีแรกได้ที่ 6% และปีที่ 3-15 เป็นการจ่ายปันผลตามผลประกอบการจาก WYNDHAM โดยตรง ซึ่งสัดส่วนรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายนักลงทุนจะได้รับไป 100%