กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ไซซ์เล็กในตลาด เอ็ม เอ ไอ เฮ!! หลัง ครม. ไฟเขียวมาตรการกระตุ้นอสังหา สำหรับบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ลดภาษีค่าโอน-จดจำนอง เหลือ 0.01% ด้าน CHEWA โดดรับผลบวกเชื่อกระตุ้นยอดโอนไตรมาส 4 เพียบด้าน CMC โชว์โครงการเข้าเงื่อนไขราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท พร้อมขาย 80% เชื่อหนุนตลาดกลับมาคึกคัก
        ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติมาตรการลด ภาระภาษีเพื่อที่อยู่อาศัย โดยลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนจากเดิม 2% เหลือ 0.01% ลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 1% เหลือ 0.01% เฉพาะการซื้อขายที่อยู่อาศัยที่ดิน พร้อมอาคารหรือห้องชุดในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อหน่วย และการจดทะเบียนการโอน และการจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยต้องดำเนินการในคราวเดียวกัน
เด้งรับมาตรการรัฐ
        โดยมติดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 ต่อเนื่องถึงวันที่  24 ธันวาคม 2563 ซึ่งมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ที่จะได้รับอานิสงส์ ได้แก่ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA, บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC และ บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL
        ทั้งนี้นางสาวสุนันทรา มหาประสิทธิ์ชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวบริษัทจะได้รับอานิสงส์ด้านบวก เพราะชีวาทัยมีสินค้าพร้อมรับรู้รายได้ที่เข้าเงื่อนไขดังกล่าว ทั้งแนวราบและแนวสูง อันได้แก่ 1. โครงการชีวาทัย เพชรเกษม 27 2. โครงการชีวาโฮม สุขสวัสดิ์ประชาอุทิศ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงไตรมาส 4/2562 นี้ได้มาก
อีกทั้งบริษัทมีโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2563 โดยเข้าเงื่อนไขดังกล่าวอีก 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการชีวาทัย เกษตรนวมินทร์  มูลค่าโครงการ 1.7 พันล้านบาท 2. โครงการชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค จรัญ 13 มูลค่าโครงการ  430 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2563
        สินค้าพร้อมขายเพียบ
        ด้านนายวรัทภพ แพทยานันท์ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC เปิดเผยว่า บริษัทมีโครงการรอพร้อมขาย 15 โครงการ และมีโครงการที่เข้าเงื่อนไข หรือราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทประมาณ 70-80% ของโครงการทั้งหมด ทำให้บริษัทคาดว่ามาตรการที่จะเกิดขึ้นจะช่วยสนับสนุนยอดขายและตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่เหลือให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีโครงการอยู่ระหว่างก่อสร้าง 4 โครงการ มูลค่ารวมราว 4-5 พันล้านบาท ซึ่งจะมีโครงการที่ทยอยแล้วเสร็จภายในปี 2563 และพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2563