ดิ อัมรินทร์ งัดแลนด์แบงก์พรานนก ผุดคอนโดเจาะแพทย์-พยาบาลศิริราช
วันที่ : 10 กันยายน 2562
"ดิ อัมรินทร์" กลุ่มธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ย่านพรานนก งัดที่ดินสะสม "คุณยาย" พัฒนาคอนโดโลว์ไรส์มูลค่ารวม 280 ล้านบาท เจาะกลุ่มแพทย์-พยาบาล รพ.ศิริราช และนักลงทุน หวังปูทางสร้างแบรนด์รุกอสังหาฯเต็มตัว แจงมียอดจองแล้ว 30% คาดเปิดพรีเชลยอดขาย 60-80%
"ดิ อัมรินทร์" กลุ่มธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ย่านพรานนก งัดที่ดินสะสม "คุณยาย" พัฒนาคอนโดโลว์ไรส์มูลค่ารวม 280 ล้านบาท เจาะกลุ่มแพทย์-พยาบาล รพ.ศิริราช และนักลงทุน หวังปูทางสร้างแบรนด์รุกอสังหาฯเต็มตัว แจงมียอดจองแล้ว 30% คาดเปิดพรีเชลยอดขาย 60-80% เล็งเปิดเพิ่ม อีก 1 โครงการย่านพรานนกในปี 63 เผยที่ดินสะสม "คุณยาย" รอพัฒนาในมือทั้งใน กทม.และ ตจว.กว่า 400 ไร่
"คอนโดมิเนียมนั้น นอกจากทำเลติดรถไฟฟ้าแล้ว ทำเลที่ได้รับความนิยมคือ รอบมหาวิทยาลัย และรอบโรงพยาบาล คือ ทำเลที่เป็นที่ต้องการของ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเรียลดีมานด์ สำหรับโครงการรองรับกับความต้องการของผู้บริโภค พื้นที่โดยรอบโรงพยาบาลศิริราช แม้จะเป็นอีกทำเลศักยภาพ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ดีเวลลอปเปอร์จะหาที่ดินมาพัฒนา และเนื่องด้วยครอบครัว "ธรรมเจริญ" มีที่ดินเก่าในย่านพรานนก ทำให้เป็นโอกาสที่จะนำที่ดินดังกล่าวมาพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มต่อยอดธุรกิจอสังหาฯ" นายอรรถวุฒิ ธรรมเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดิ อัมรินทร์ จำกัด กล่าว
สำหรับ "ดิ อัมรินทร์" ดำเนินธุรกิจอสังหาฯภายใต้แบรนด์ ดิ อัมรินทร์เรสสิเดนซ์ เซอร์วิส อพาร์ต เมนต์ ในย่านโรงพยาบาลศิริราช ล่าสุดบริษัทฯได้นำที่ดินสะสม ที่อยู่บริเวณถนนพรานนกเนื้อที่ 0-2-58 ไร่ พัฒนาคอนโดแบรนด์ "อรุณ" 1 อาคาร สูง 8 ชั้น จำนวน 61 ยูนิต มูลค่าโครงการ280 ล้านบาท ขนาดห้องชุดมีพื้นที่ใช้สอย 25.07-49.30 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาขายเริ่ม 2.5-6.4 ล้านบาท หรือราคาขายเฉลี่ย 110,000 บาทต่อตร.ม. ปัจจุบัน มียอดขายแล้ว 30% คาดว่าหลังจากเปิดพรีเซลในวันที่ 14-15 ก.ย. จะสามารถสร้างยอดขายได้ 60-80% และสามารถปิดการขายได้ในเร็วๆนี้ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 4/62 กำหนดแล้วเสร็จไตรมาส 1/64
นายอรรถวุฒิ กล่าวว่า บริษัทฯยังมีที่ดินรอการพัฒนาในมือกว่า 400 ไร่ กระจายอยู่ใน กทม.และต่างจังหวัด บางแปลงสามารถนำมาพัฒนาได้ทันที แต่บางแปลงต้องรอเวลา เนื่องจากติดสัญญาเช่าจากผู้เช่า โดยในปี 63 บริษัทฯ มีแผนจะพัฒนาคอนโดในย่านพรานนกเพิ่มอีก 1 โครงการ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน 2 แปลง ซึ่งแปลงแรกขนาดพื้นที่ 1 ไร่ และอีกแปลงขนาดพื้นที่ 2 ไร่ หากได้แปลง 1 ไร่ จะนำมาพัฒนาโครงการในรูปแบบเดียวกับโครงการอรุณ แต่หากได้แปลง2ไร่ เข้ามาจะพัฒนาโครงการไฮเอนด์ระดับราคา130,000-150,000 บาทต่อตร.ม. ซึ่งจะเป็นการสร้างแบรนด์ ต่อเนื่องจากโครงการ อรุณ จากนั้นก็จะพัฒนาที่ดินย่านแบริ่งเป็นลำดับต่อไป ส่วนที่ดินแปลงอื่นๆ ที่เหลือเช่น ย่านศรีสมาน 40 ไร่ และที่ จ.นครนายก 120 ไร่นั้น ปัจจุบันมีคนเช่า ซึ่ง บริษัทฯ ยังไม่มีแผนที่จะพัฒนา
"คอนโดมิเนียมนั้น นอกจากทำเลติดรถไฟฟ้าแล้ว ทำเลที่ได้รับความนิยมคือ รอบมหาวิทยาลัย และรอบโรงพยาบาล คือ ทำเลที่เป็นที่ต้องการของ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเรียลดีมานด์ สำหรับโครงการรองรับกับความต้องการของผู้บริโภค พื้นที่โดยรอบโรงพยาบาลศิริราช แม้จะเป็นอีกทำเลศักยภาพ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ดีเวลลอปเปอร์จะหาที่ดินมาพัฒนา และเนื่องด้วยครอบครัว "ธรรมเจริญ" มีที่ดินเก่าในย่านพรานนก ทำให้เป็นโอกาสที่จะนำที่ดินดังกล่าวมาพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มต่อยอดธุรกิจอสังหาฯ" นายอรรถวุฒิ ธรรมเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดิ อัมรินทร์ จำกัด กล่าว
สำหรับ "ดิ อัมรินทร์" ดำเนินธุรกิจอสังหาฯภายใต้แบรนด์ ดิ อัมรินทร์เรสสิเดนซ์ เซอร์วิส อพาร์ต เมนต์ ในย่านโรงพยาบาลศิริราช ล่าสุดบริษัทฯได้นำที่ดินสะสม ที่อยู่บริเวณถนนพรานนกเนื้อที่ 0-2-58 ไร่ พัฒนาคอนโดแบรนด์ "อรุณ" 1 อาคาร สูง 8 ชั้น จำนวน 61 ยูนิต มูลค่าโครงการ280 ล้านบาท ขนาดห้องชุดมีพื้นที่ใช้สอย 25.07-49.30 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาขายเริ่ม 2.5-6.4 ล้านบาท หรือราคาขายเฉลี่ย 110,000 บาทต่อตร.ม. ปัจจุบัน มียอดขายแล้ว 30% คาดว่าหลังจากเปิดพรีเซลในวันที่ 14-15 ก.ย. จะสามารถสร้างยอดขายได้ 60-80% และสามารถปิดการขายได้ในเร็วๆนี้ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 4/62 กำหนดแล้วเสร็จไตรมาส 1/64
นายอรรถวุฒิ กล่าวว่า บริษัทฯยังมีที่ดินรอการพัฒนาในมือกว่า 400 ไร่ กระจายอยู่ใน กทม.และต่างจังหวัด บางแปลงสามารถนำมาพัฒนาได้ทันที แต่บางแปลงต้องรอเวลา เนื่องจากติดสัญญาเช่าจากผู้เช่า โดยในปี 63 บริษัทฯ มีแผนจะพัฒนาคอนโดในย่านพรานนกเพิ่มอีก 1 โครงการ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน 2 แปลง ซึ่งแปลงแรกขนาดพื้นที่ 1 ไร่ และอีกแปลงขนาดพื้นที่ 2 ไร่ หากได้แปลง 1 ไร่ จะนำมาพัฒนาโครงการในรูปแบบเดียวกับโครงการอรุณ แต่หากได้แปลง2ไร่ เข้ามาจะพัฒนาโครงการไฮเอนด์ระดับราคา130,000-150,000 บาทต่อตร.ม. ซึ่งจะเป็นการสร้างแบรนด์ ต่อเนื่องจากโครงการ อรุณ จากนั้นก็จะพัฒนาที่ดินย่านแบริ่งเป็นลำดับต่อไป ส่วนที่ดินแปลงอื่นๆ ที่เหลือเช่น ย่านศรีสมาน 40 ไร่ และที่ จ.นครนายก 120 ไร่นั้น ปัจจุบันมีคนเช่า ซึ่ง บริษัทฯ ยังไม่มีแผนที่จะพัฒนา
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ