ทีฆา เรียลเอสเตท น้องใหม่อสังหาฯ กางแผน5ปีผุด3โครงการมูลค่า3พันล้าน
วันที่ : 12 สิงหาคม 2562
นายพีระวัฒน์ วานิชวัฒน์ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ทีฆา เรียลเอสเตท เปิดเผยว่า หลังจากรุ่นพ่อคือ นายวีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฑีฆา ก่อสร้าง จำกัด ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมานานกว่า 35 ปี จึงมองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ สู่การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์
นายพีระวัฒน์ วานิชวัฒน์ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ทีฆา เรียลเอสเตท เปิดเผยว่า หลังจากรุ่นพ่อคือ นายวีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฑีฆา ก่อสร้าง จำกัด ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมานานกว่า 35 ปี จึงมองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ สู่การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยจัดตั้งบริษัท ทีฆา เรียลเอสเตท ขึ้นเพื่อเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัว และมองว่าแม้สภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศและภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ยังอยู่ในช่วงที่เติบโตไม่มากนัก แต่ด้วยศักยภาพและประสบการณ์ที่มีจะทำให้ประสบความสำเร็จได้
ทั้งนี้ บริษัทจะใช้ประสบการณ์และความชำนาญจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง มาใช้ในการผลิตและก่อสร้างโครงการ ประกอบกับธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่สามารถสร้างผลประกอบการที่ดี แม้ว่าจะใช้เงินลงทุนสูงก็ตาม หากสามารถบริหารจัดการได้ดี ก็จะทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเพราะสามารถควบคุมต้นทุนการก่อสร้างได้ดีกว่าผู้ประกอบการรายอื่นถึง 5-10%
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้ (ปี 2562-2566) ได้วางเป้าหมายพัฒนา โครงการแนวราบ 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2,100-3,000 ล้านบาท หรือมูลค่าแต่ละโครงการ อยู่ที่ 700-1,000 ล้านบาท โดยพิจารณาทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮ้าส์ และบ้านแฝด ที่ระดับราคาขายที่ 3-7 ล้านบาทต่อยูนิต กระจายในย่านชานเมืองกรุงเทพฯ เน้นทำเลที่มีศักยภาพและมีความต้องการ (ดีมานด์) รองรับเพื่อพัฒนาโครงการที่สามารถตอบโจทย์ได้ดี อาทิ นนทบุรี รามอินทรา และบางนา เป็นต้น
โครงการแรกที่บริษัทเริ่มพัฒนาแล้ว คือ "ดิ เอสเซนส์ ชัยพฤกษ์-วงแหวน" ตั้งอยู่บนพื้นที่ 43 ไร่ ทำเลบ้านกล้วย-ไทรน้อย ในรูปแบบทาวน์เฮ้าส์ ขนาดตั้งแต่ 16.5-22 ตารางวา ราคาขายอยู่ที่ 1.55 - 2.2 ล้านบาท ต่อยูนิต และบ้านแฝด ขนาดตั้งแต่ 35-50 ตารางวา ราคาขาย 2.89 - 3.3 ล้านบาท รวม 421 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 950 ล้านบาท
การพัฒนาโครงการดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 3 เฟส เฟสละ 100 กว่ายูนิต ซึ่งเริ่มเปิดการขายเฟสที่ 1 ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบันมียอดขายแล้วประมาณ 50% ส่วน เฟส 2 มีแผนจะเปิดการขายในช่วงต้นปี 2563 และเฟส 3 จะเปิดขายในปลายปี 2563 โดยคาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ภายในปลายปี 2564
ทั้งนี้ บริษัทจะใช้ประสบการณ์และความชำนาญจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง มาใช้ในการผลิตและก่อสร้างโครงการ ประกอบกับธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่สามารถสร้างผลประกอบการที่ดี แม้ว่าจะใช้เงินลงทุนสูงก็ตาม หากสามารถบริหารจัดการได้ดี ก็จะทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเพราะสามารถควบคุมต้นทุนการก่อสร้างได้ดีกว่าผู้ประกอบการรายอื่นถึง 5-10%
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้ (ปี 2562-2566) ได้วางเป้าหมายพัฒนา โครงการแนวราบ 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2,100-3,000 ล้านบาท หรือมูลค่าแต่ละโครงการ อยู่ที่ 700-1,000 ล้านบาท โดยพิจารณาทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮ้าส์ และบ้านแฝด ที่ระดับราคาขายที่ 3-7 ล้านบาทต่อยูนิต กระจายในย่านชานเมืองกรุงเทพฯ เน้นทำเลที่มีศักยภาพและมีความต้องการ (ดีมานด์) รองรับเพื่อพัฒนาโครงการที่สามารถตอบโจทย์ได้ดี อาทิ นนทบุรี รามอินทรา และบางนา เป็นต้น
โครงการแรกที่บริษัทเริ่มพัฒนาแล้ว คือ "ดิ เอสเซนส์ ชัยพฤกษ์-วงแหวน" ตั้งอยู่บนพื้นที่ 43 ไร่ ทำเลบ้านกล้วย-ไทรน้อย ในรูปแบบทาวน์เฮ้าส์ ขนาดตั้งแต่ 16.5-22 ตารางวา ราคาขายอยู่ที่ 1.55 - 2.2 ล้านบาท ต่อยูนิต และบ้านแฝด ขนาดตั้งแต่ 35-50 ตารางวา ราคาขาย 2.89 - 3.3 ล้านบาท รวม 421 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 950 ล้านบาท
การพัฒนาโครงการดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 3 เฟส เฟสละ 100 กว่ายูนิต ซึ่งเริ่มเปิดการขายเฟสที่ 1 ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบันมียอดขายแล้วประมาณ 50% ส่วน เฟส 2 มีแผนจะเปิดการขายในช่วงต้นปี 2563 และเฟส 3 จะเปิดขายในปลายปี 2563 โดยคาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ภายในปลายปี 2564
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ