คอนกรีตสำเร็จรูปรุ่ง อานิสงส์เมกะโปรเจ็กต์รัฐ
วันที่ : 10 กรกฎาคม 2562
ตลาดคอนกรีตสำเร็จรูป เติบโตต่อเนื่อง จากอานิสงส์ รัฐบาลใหม่สานต่อเมกะโปรเจ็กต์รัฐ-คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร พร้อม เดินหน้าปรับโฉมนวัตกรรม สู่ยุค 4.0
ตลาดคอนกรีตสำเร็จรูป เติบโตต่อเนื่อง จากอานิสงส์ รัฐบาลใหม่สานต่อเมกะโปรเจ็กต์รัฐ-คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร พร้อม เดินหน้าปรับโฉมนวัตกรรม สู่ยุค 4.0
ภาพรวมความต้องการคอนกรีตของไทยแม้จะลดน้อยลงตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมาแต่ในโหมดคอนกรีตสำเร็จรูปกลับพบว่ามีแนวโน้มเติบโตขึ้น ส่วนหนึ่งนั้นได้มีการพัฒนารูปแบบการก่อสร้างที่เปลี่ยนไปด้วย "นวัตกรรม" ใหม่ที่หลายฝ่ายต้องหันกลับมาปรับตัวเพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ
นายณัฐพงศ์ มกระธัช เลขาธิการสมาคมคอนกรีตแห่งประเทศไทย ได้ฉายภาพถึงภาพรวมความต้องการของตลาดคอนกรีตและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุค 4.0 ไว้อย่างน่าสนใจหลายประเด็นว่า โครงการของรัฐและเอกชน ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ยังไม่เห็นภาพการเติบโตมากนัก และยังพบว่าแนวโน้มลดลงมาเป็นปีที่ 3 คอนโดมิเนียมหรืออสังหาริมทรัพย์ต่างๆ รวมถึงตัวอาคารสูง น่าจะมีผลค่อนข้างชัดเจนตามไปด้วย
ประการสำคัญกลับเป็นที่น่าสังเกตว่าเมื่อมีปัญหาตลอดทั้ง 3 ปีที่ผ่านมา มีคำถามว่าทำไมยังทำให้ปริมาณการใช้คอนกรีตสำเร็จรูปไม่ลดลง เพราะว่าตัวที่เป็นแรงพยุงให้กับโปรเจ็กต์ต่างๆของรัฐบาลเป็นระบบโครงสร้างพื้นฐาน รัฐบาลเป็นคนลงทุน มีนโยบายที่จะผลักดันระบบโครงสร้างพื้นฐาน จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าเราต้องใช้คอนกรีต ไม่ใช้ไม่ได้ สร้างถนนต้องใช้คอนกรีต จะสร้างเมือง จะสร้างชาติ ถ้าไม่สร้างถนน ไม่สร้างสะพานก็จะไม่มีความเจริญ การขยายท่าเรือ ขยายสนามบิน เขื่อน คูคลอง รถไฟทางคู่ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ใช้คอนกรีตทั้งสิ้น ถ้าไม่ใช้ก็จะไม่สามารถผลักดันประเทศชาติให้มีความเจริญได้ ทำตามนโยบายยุทธศาสตร์ 20 ปีให้เห็นผลเป็นรูปธรรมจริงๆ
"ผมมองว่ารัฐบาลชุดใหม่ยังเดินหน้าต่อเนื่องแน่นอน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป กำลังรอดูอยู่ว่าพรรคที่ดูงานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอย่างกระทรวงคมนาคมเป็นพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ถ้าเป็นพรรคภูมิใจไทย มีความพร้อมอยู่แล้ว น่าจะรู้อยู่แล้วว่าหัวหน้าพรรคเป็นเจ้าของบริษัทอะไร ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานงานภาครัฐ จึงเป็นไปได้ว่ารัฐบาลจะผลักดันระบบโครงสร้างพื้นฐาน ประกอบกับขณะนี้มีโปรเจ็กต์ที่เดินหน้าไม่ต่ำกว่า 15 โครงการ จึงมีการเริ่มต้นใช้วัตถุดิบเต็มรูปแบบ ยังคงเห็นว่ามีการก่อสร้างมากขึ้น ขณะนี้การรับงานอสังหาริมทรัพย์พบว่ากลุ่มบิ๊กรับเหมาล้วนมีงานเต็มไม้เต็มมือกันหมดแล้ว"
ภาพรวมความต้องการคอนกรีตของไทยแม้จะลดน้อยลงตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมาแต่ในโหมดคอนกรีตสำเร็จรูปกลับพบว่ามีแนวโน้มเติบโตขึ้น ส่วนหนึ่งนั้นได้มีการพัฒนารูปแบบการก่อสร้างที่เปลี่ยนไปด้วย "นวัตกรรม" ใหม่ที่หลายฝ่ายต้องหันกลับมาปรับตัวเพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ
นายณัฐพงศ์ มกระธัช เลขาธิการสมาคมคอนกรีตแห่งประเทศไทย ได้ฉายภาพถึงภาพรวมความต้องการของตลาดคอนกรีตและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุค 4.0 ไว้อย่างน่าสนใจหลายประเด็นว่า โครงการของรัฐและเอกชน ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ยังไม่เห็นภาพการเติบโตมากนัก และยังพบว่าแนวโน้มลดลงมาเป็นปีที่ 3 คอนโดมิเนียมหรืออสังหาริมทรัพย์ต่างๆ รวมถึงตัวอาคารสูง น่าจะมีผลค่อนข้างชัดเจนตามไปด้วย
ประการสำคัญกลับเป็นที่น่าสังเกตว่าเมื่อมีปัญหาตลอดทั้ง 3 ปีที่ผ่านมา มีคำถามว่าทำไมยังทำให้ปริมาณการใช้คอนกรีตสำเร็จรูปไม่ลดลง เพราะว่าตัวที่เป็นแรงพยุงให้กับโปรเจ็กต์ต่างๆของรัฐบาลเป็นระบบโครงสร้างพื้นฐาน รัฐบาลเป็นคนลงทุน มีนโยบายที่จะผลักดันระบบโครงสร้างพื้นฐาน จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าเราต้องใช้คอนกรีต ไม่ใช้ไม่ได้ สร้างถนนต้องใช้คอนกรีต จะสร้างเมือง จะสร้างชาติ ถ้าไม่สร้างถนน ไม่สร้างสะพานก็จะไม่มีความเจริญ การขยายท่าเรือ ขยายสนามบิน เขื่อน คูคลอง รถไฟทางคู่ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ใช้คอนกรีตทั้งสิ้น ถ้าไม่ใช้ก็จะไม่สามารถผลักดันประเทศชาติให้มีความเจริญได้ ทำตามนโยบายยุทธศาสตร์ 20 ปีให้เห็นผลเป็นรูปธรรมจริงๆ
"ผมมองว่ารัฐบาลชุดใหม่ยังเดินหน้าต่อเนื่องแน่นอน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป กำลังรอดูอยู่ว่าพรรคที่ดูงานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอย่างกระทรวงคมนาคมเป็นพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ถ้าเป็นพรรคภูมิใจไทย มีความพร้อมอยู่แล้ว น่าจะรู้อยู่แล้วว่าหัวหน้าพรรคเป็นเจ้าของบริษัทอะไร ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานงานภาครัฐ จึงเป็นไปได้ว่ารัฐบาลจะผลักดันระบบโครงสร้างพื้นฐาน ประกอบกับขณะนี้มีโปรเจ็กต์ที่เดินหน้าไม่ต่ำกว่า 15 โครงการ จึงมีการเริ่มต้นใช้วัตถุดิบเต็มรูปแบบ ยังคงเห็นว่ามีการก่อสร้างมากขึ้น ขณะนี้การรับงานอสังหาริมทรัพย์พบว่ากลุ่มบิ๊กรับเหมาล้วนมีงานเต็มไม้เต็มมือกันหมดแล้ว"
ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ