LH เปิดแผนครึ่งปีหลังลุยเปิด 10 โครงการรวด รวมมูลค่า 11,500 ล้านบาท ดันยอดขาย-ยอดโอนเข้าเป้า 3.7 หมื่นล้านบาท มั่นใจบริหารสัดส่วนรายได้จากการพัฒนา โครงการเพื่อขาย, ค่าเช่า, เงินลงทุนลงตัว เล็งขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์-ออกหุ้นกู้1.2 หมื่นล้านบาท เชื่อหุ้น LH ยังเป็นที่ต้องการของนักลงทุน หลัง GIC ขายหุ้น ย้ำปันผลสม่ำเสมอ

          นายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เปิดเผยแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ว่า ยังคงเดินหน้าเปิดโครงการบ้านเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงไตรมาส 3/2562 มีแผนเปิดตัว 5 โครงการ มูลค่ารวม 6,100 ล้านบาท และไตรมาส 4/2562 จะเปิดตัวอีก 5 โครงการ มูลค่ารวม 5,400 ล้านบาท เพื่อดันทั้งยอดขายและรายได้ให้เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 37,000 ล้านบาท

          โดยคาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้จากธุรกิจการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขาย จำนวน 32,000 ล้านบาท, รายได้ค่าเช่าจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่า 5,000 ล้านบาท, และยังมีรายได้จากส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้น 3,700 ล้านบาท

          ขายรร.เข้ากองทุน-ออกหุ้นกู้

          นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะขายโรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยท์ ทองหล่อ เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล ในช่วงปลายปีนี้ และมีแผนออกหุ้นกู้อีกประมาณ 12,000 ล้านบาท เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนดอายุมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านบาท อีกทั้งบริษัทยังมีแผนที่จะทยอยขายอพาร์ตเมนต์ LH USA ในสหรัฐอเมริกา 4 โครงการ โดยจะทยอยขายตั้งแต่ปี 2563-2566 ประมาณปีละ 1 โครงการ ตามนโยบายการลงทุนของบริษัท

          "โดยภาพรวมของธุรกิจในช่วงครึ่งแรงของปีเราก็ทำได้ตามเป้าหมายโดยเปิดตัวโครงการแนวราบทั้งสิ้น 7 โครงการรวมมูลค่า 18,400 ล้านบาท และยังคงเดินหน้าตามแผนทั้งปีทุกโครงการ รวมถึงโครงการเทอมินัล 21 พระราม 3 ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2564 แม้ว่าโครงการคอนโดมิเนียมจะได้รับผลกระทบ จากมาตรการ LTV กดดันยอดโอนไม่เข้าเป้าแต่ถือเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับเป้าหมายรายได้รวมจากทุกโครงการของเราเพราะ ณ ปัจจุบันแนวราบยังไม่ได้รับผลกระทบ" นายอดิศรกล่าว

          มั่นใจนักลงทุนเชื่อมั่น

          นายอดิศร กล่าวถึงกรณีที่กองทุน GIC PRIVATE LIMITED ประเทศสิงคโปร์ขายหุ้น LH จำนวน 836 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนราว 7% ของทุนชำระแล้วที่ราคา 10.83-11.00 บาท เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็มีนักลงทุนในประเทศรับซื้อหุ้นจำนวนดังกล่าวหมดทั้ง 7% ภายในวันเดียวกัน ว่า เป็นเครื่องยืนยันว่า LH ยังเป็นที่ต้องการของนักลงทุน ประกอบกับบริษัทยังคงนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราที่เหมาะสม อย่างต่อเนื่อง

          "ปริมาณหุ้นที่ซื้อ-ขายในกระดานก็มีเท่าเดิม เมื่อคนกลุ่มหนึ่งต้องการขายหุ้นออกมา แต่ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งยังต้องการซื้อ ก็ถือเป็นการเปลี่ยนมือกันราคาหุ้นก็ไม่อ่อนตัวลง แต่ถ้ามีเพียงความต้องการขาย โดยไม่มีความต้องการซื้อ แน่นอนว่าราคาหุ้นต้องอ่อนตัวลง ซึ่งการที่มีผู้ที่ยังต้องการซื้อ ก็สร้างความมั่นใจว่ายังมีความเชื่อมันในศักยภาพของบริษัท" นายอดิศรกล่าว