อีอีซีดันยอดขายนิคมฯเพิ่ม
วันที่ : 5 มิถุนายน 2562
น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยถึงภาพรวมการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ว่า ผลการดำเนินงานของ กนอ. ในรอบ 6 เดือนของปีงบประมาณ 62 (ต.ค. 61-มี.ค. 62) มียอดขายและเช่าพื้นที่นิคมฯ รวม 1,339 ไร่ เพิ่มขึ้น 5.25% เทียบกับจากช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่าลงทุนรวม 8,593 ล้านบาท
น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยถึงภาพรวมการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ว่า ผลการดำเนินงานของ กนอ. ในรอบ 6 เดือนของปีงบประมาณ 62 (ต.ค. 61-มี.ค. 62) มียอดขายและเช่าพื้นที่นิคมฯ รวม 1,339 ไร่ เพิ่มขึ้น 5.25% เทียบกับจากช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่าลงทุนรวม 8,593 ล้านบาท โดยจำนวนดังกล่าวเป็นพื้นที่นิคมฯในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ถึง 1,328 ไร่ นิคมฯนอกพื้นที่อีอีซี จำนวน 11 ไร่ ก่อให้เกิดการจ้างงานประมาณ 1,585 คน อุตสาหกรรมที่นักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนมากที่สุด ได้แก่ คลังสินค้า ยาง พลาสติกและหนังเทียม ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่กลุ่มประเทศที่เข้ามา 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และเนเธอร์แลนด์ ทั้งนี้เชื่อว่า ยอดขายและเช่าที่ดินทั้งปีของ กนอ.จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 3,500 ไร่
"ยอดขายและเช่าที่ดินที่เติบโตได้รับอานิสงส์จากการที่รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่อีอีซี อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน การพัฒนาท่าเรือฯมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) รวมทั้งส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมทั้งมีปัจจัยจากต่างประเทศที่หนุนการลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนจีนเข้าไทยมากขึ้นจากกรณีที่สหรัฐประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบ 2 ทำให้สงครามการค้ามีความรุนแรงมากขึ้น กระตุ้นให้นักลงทุนจีนตัดสินใจออกไปลงทุนต่างประเทศเร็วขึ้น ซึ่งไทยถือเป็นประเทศเป้าหมาย"
สำหรับทิศทางการลงทุนครึ่งปีหลัง คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากจะมีรัฐบาลใหม่ที่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมที่เชื่อมโยงเส้นทางการค้าการลงทุนเต็มรูปแบบมากขึ้น
ปัจจุบัน กนอ.มีนิคมฯ บริหารงาน เอง และนิคมฯ ร่วมดำเนินงาน 55 แห่ง 1 ท่าเรืออุตสาหกรรม ในพื้นที่ 16 จังหวัด และโครงการจัดตั้ง นิคมฯ อีก 6 นิคมฯ คือ นิคมฯ คอสมิก จ.ระยอง, นิคมฯ บ่อทอง 33 จ.ปราจีนบุรี, นิคมฯ โรจนะแหลมฉบัง จ.ชลบุรี, นิคมฯเวิลด์ ฟู๊ด วัลเลย์ ไทยแลนด์ จ.อ่างทอง, นิคมฯ ซีพีจีซี จ.ระยอง และนิคมฯ แพรกษา จ.สมุทร ปราการ รวมพื้นที่ทั้งสิ้นประมาณ 165,608 ไร่
"ยอดขายและเช่าที่ดินที่เติบโตได้รับอานิสงส์จากการที่รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่อีอีซี อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน การพัฒนาท่าเรือฯมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) รวมทั้งส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมทั้งมีปัจจัยจากต่างประเทศที่หนุนการลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนจีนเข้าไทยมากขึ้นจากกรณีที่สหรัฐประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบ 2 ทำให้สงครามการค้ามีความรุนแรงมากขึ้น กระตุ้นให้นักลงทุนจีนตัดสินใจออกไปลงทุนต่างประเทศเร็วขึ้น ซึ่งไทยถือเป็นประเทศเป้าหมาย"
สำหรับทิศทางการลงทุนครึ่งปีหลัง คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากจะมีรัฐบาลใหม่ที่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมที่เชื่อมโยงเส้นทางการค้าการลงทุนเต็มรูปแบบมากขึ้น
ปัจจุบัน กนอ.มีนิคมฯ บริหารงาน เอง และนิคมฯ ร่วมดำเนินงาน 55 แห่ง 1 ท่าเรืออุตสาหกรรม ในพื้นที่ 16 จังหวัด และโครงการจัดตั้ง นิคมฯ อีก 6 นิคมฯ คือ นิคมฯ คอสมิก จ.ระยอง, นิคมฯ บ่อทอง 33 จ.ปราจีนบุรี, นิคมฯ โรจนะแหลมฉบัง จ.ชลบุรี, นิคมฯเวิลด์ ฟู๊ด วัลเลย์ ไทยแลนด์ จ.อ่างทอง, นิคมฯ ซีพีจีซี จ.ระยอง และนิคมฯ แพรกษา จ.สมุทร ปราการ รวมพื้นที่ทั้งสิ้นประมาณ 165,608 ไร่
ข่าวเขตเศรษฐกิจพิเศษ อื่นๆ