ดีเวลอปเปอร์ดิ้นพึ่งเอเยนต์จีนทิ้งดาวน์กว่า20%
วันที่ : 29 พฤษภาคม 2562
ดีเวลอปเปอร์มึน คอนโดฯ"หลุดดาวน์-หลุดโอน" แนวโน้มสูงขึ้น แม้โครงการที่ปิดการขายช่วงพรีเซล 100% ถึงเวลาโอนพบลูกค้าปล่อยทิ้งกว่า 20% วิ่งตีนพลิกหาเอเยนต์จีนช่วยระบายสต๊อก บางรายลงทุนโรดโชว์บุกต่างประเทศเอง เผยไตรมาส 2 เปิดตัวใหม่ลดความแรง
ดีเวลอปเปอร์มึน คอนโดฯ"หลุดดาวน์-หลุดโอน" แนวโน้มสูงขึ้น แม้โครงการที่ปิดการขายช่วงพรีเซล 100% ถึงเวลาโอนพบลูกค้าปล่อยทิ้งกว่า 20% วิ่งตีนพลิกหาเอเยนต์จีนช่วยระบายสต๊อก บางรายลงทุนโรดโชว์บุกต่างประเทศเอง เผยไตรมาส 2 เปิดตัวใหม่ลดความแรง
ปัจจุบันผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ประสบปัญหาทิ้งดาวน์ของตลาดคอนโดมิเนียมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลจากภาพรวมเศรษฐกิจ ในประเทศ ซึ่งไตรมาส 1 ปีนี้ จีดีพีเติบโตเพียง 2.8% ต่ำสุดในรอบ 4 ปี ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ประกอบกับมาตรการคุมเข้มสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย ถือเป็นการผลักดันให้ตลาดคอนโดมิเนียมชะลออย่างมาก เพราะนักลงทุนรวมถึงผู้ซื้อคอนโดมิเนียมที่อยู่ในช่วงผ่อนคอนโดฯ เริ่มรับภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนไม่ไหว
รวมถึงกำลังซื้อต่างชาติโดยเฉพาะกำลังซื้อจากนักลงทุนชาวจีน ที่ดีเวลอปเปอร์ไทยมีการนำโครงการคอนโดมิเนียมบางส่วนให้กับเอเยนต์ต่างชาติในการนำห้องชุดไปจำหน่ายยังประเทศจีน แต่เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและนโยบายการเข้มงวดของรัฐบาลจีนในการนำเงินออกนอกประเทศในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ลูกค้าจีนตัดสินใจทิ้งเงินจองประมาณ 5-10% จึงส่งผลให้ห้องชุดเหล่านั้นหลุดดาวน์และมีการนำกลับมาขายใหม่อีกครั้ง
นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวยอมรับว่าขณะนี้มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์การชะลอตัวของตลาดคอนโดมิเนียมอยู่บ้าง หลังจากผู้ประกอบการรายใหญ่เริ่มนำสินค้าหลุดโอน หลุดดาวน์ ออกมาทำแคมเปญขายใหม่ คาดคงมาจากความต้องการจะระบายสต๊อก และสะท้อนถึงบรรยากาศไม่ดีของตลาด โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายนที่เดิมเป็นช่วงที่ขายไม่ดีอยู่แล้ว ปีนี้เจอหลายปัจจัยเกิดขึ้นพร้อมกัน ทำให้ยอดขายลดลงชัดเจน ก่อนยอดขายขยับตัวดีขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งก็ต้องรอลุ้นว่า ยอดขายที่เกิดขึ้นเหล่านั้น จะนำไปสู่การผ่อนดาวน์ และโอนกรรมสิทธิ์ในอนาคตได้หรือไม่
"เพราะปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจและกฎเกณฑ์การขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ (LTV) ทำให้มีลูกค้าบางส่วนที่จ่ายผ่อนดาวน์มาแล้ว แต่กู้ไม่ผ่านเยอะขึ้น"
ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนการขายและหลุดโอนกรรมสิทธิ์อยู่ที่ประมาณ 10-20% ส่วนลูกค้าที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อโดยแบงก์(รีเจ็กต์) น่าเป็นห่วงมากสุด อยู่ที่ประมาณ 10-20% เช่นกัน โดยเฉพาะการจ่ายเงินดาวน์มาแล้ว แต่ภายหลังกลับกู้ไม่ผ่าน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของไตรมาส 2 นั้น ยังคงเห็นแนวโน้มการเปิดโครงการใหม่อยู่บ้าง แต่ไม่มาก เพราะผู้ประกอบการเริ่มปรับตัว และมีความรอบคอบระมัดระวังมากขึ้น เพื่อรอดูสถานการณ์ตลาดเช่นกัน และแม้เห็นความพยายามจะกระตุ้นตลาดโดยรัฐบาล เช่น ออกมาตรการลดค่าโอน จดจำนอง แต่ก็เป็นเพียงการช่วยเหลือลูกค้าในกลุ่มซื้อบ้านต่ำกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ที่เล็กมากเมื่อเทียบกับขนาดใหญ่ของตลาดทั้งระบบ
ด้านนายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอล ลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยฯ กล่าวเสริมว่า ในตลาดมีสต๊อกคอนโดฯ เก่าที่ยังขายไม่หมดกว่า 44,000 ยูนิต เฉพาะกรุงเทพฯ ทำให้ผู้ประกอบการต้องนำกลับมา Resale มีจำนวนมากกว่าคอนโดที่ขายออกไปแล้วซะอีก ด้วยเหตุนี้ผู้ประกอบการจึงต้องงัดแคมเปญ "หลุดดาวน์" ราคาพิเศษพร้อมโปรโมชันอีกมากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าในปีนี้จะมีแคมเปญระบายคอนโดฯ หลุดดาวน์ออกมาเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังพบว่า ถึงแม้ว่าบางโครงการจะได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้ซื้อและนักลงทุนเป็นจำนวนมากในช่วง Presale จนสามารถปิดการขายได้ 100% แต่ปรากฏว่า เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จและมีการเรียกโอนห้องชุดกลับไม่สามารถเรียกโอนได้ครบ 100% แต่พบว่ามีการทิ้งดาวน์มากกว่า 20%
แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า มีผู้ประกอบการไทยบางส่วนพลิกวิกฤติเป็นโอกาส หาช่องทางการขายและกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ของตลาดต่างชาติ ด้วยการนำสินค้าออกไปโรดโชว์ตามประเทศเป้าหมาย โดยเฉพาะ เมืองหลักและเมืองรองของประเทศจีน ที่มีความสนใจซื้อ-ลงทุนอสังหาฯไทยอยู่มาก เช่น ฮาบิแทท กรุ๊ป, ไซมิส แอสเสท และ แกรนด์ ยูนิตี้ ที่เตรียมนำคอนโดฯเปิดใหม่ย่านสาทร ไปโรดโชว์ที่ขายที่ฮ่องกงและไต้หวันด้วย
นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ประกอบการที่มีสต๊อคคอนโดมิเนียมจำนวนมาก ติดต่อเอเยนต์จีนในประเทศไทยให้ช่วยทำตลาด แต่เนื่องจากลูกค้าจีนในช่วงนี้ค่อนข้างชะลอการตัดสินใจซื้อ นอกจากจะมีสินค้าที่ราคาค่อนข้างถูก และโปรโมชันแรงๆ ถึงจะซื้อ
ปัจจุบันผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ประสบปัญหาทิ้งดาวน์ของตลาดคอนโดมิเนียมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลจากภาพรวมเศรษฐกิจ ในประเทศ ซึ่งไตรมาส 1 ปีนี้ จีดีพีเติบโตเพียง 2.8% ต่ำสุดในรอบ 4 ปี ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ประกอบกับมาตรการคุมเข้มสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย ถือเป็นการผลักดันให้ตลาดคอนโดมิเนียมชะลออย่างมาก เพราะนักลงทุนรวมถึงผู้ซื้อคอนโดมิเนียมที่อยู่ในช่วงผ่อนคอนโดฯ เริ่มรับภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนไม่ไหว
รวมถึงกำลังซื้อต่างชาติโดยเฉพาะกำลังซื้อจากนักลงทุนชาวจีน ที่ดีเวลอปเปอร์ไทยมีการนำโครงการคอนโดมิเนียมบางส่วนให้กับเอเยนต์ต่างชาติในการนำห้องชุดไปจำหน่ายยังประเทศจีน แต่เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและนโยบายการเข้มงวดของรัฐบาลจีนในการนำเงินออกนอกประเทศในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ลูกค้าจีนตัดสินใจทิ้งเงินจองประมาณ 5-10% จึงส่งผลให้ห้องชุดเหล่านั้นหลุดดาวน์และมีการนำกลับมาขายใหม่อีกครั้ง
นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวยอมรับว่าขณะนี้มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์การชะลอตัวของตลาดคอนโดมิเนียมอยู่บ้าง หลังจากผู้ประกอบการรายใหญ่เริ่มนำสินค้าหลุดโอน หลุดดาวน์ ออกมาทำแคมเปญขายใหม่ คาดคงมาจากความต้องการจะระบายสต๊อก และสะท้อนถึงบรรยากาศไม่ดีของตลาด โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายนที่เดิมเป็นช่วงที่ขายไม่ดีอยู่แล้ว ปีนี้เจอหลายปัจจัยเกิดขึ้นพร้อมกัน ทำให้ยอดขายลดลงชัดเจน ก่อนยอดขายขยับตัวดีขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งก็ต้องรอลุ้นว่า ยอดขายที่เกิดขึ้นเหล่านั้น จะนำไปสู่การผ่อนดาวน์ และโอนกรรมสิทธิ์ในอนาคตได้หรือไม่
"เพราะปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจและกฎเกณฑ์การขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ (LTV) ทำให้มีลูกค้าบางส่วนที่จ่ายผ่อนดาวน์มาแล้ว แต่กู้ไม่ผ่านเยอะขึ้น"
ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนการขายและหลุดโอนกรรมสิทธิ์อยู่ที่ประมาณ 10-20% ส่วนลูกค้าที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อโดยแบงก์(รีเจ็กต์) น่าเป็นห่วงมากสุด อยู่ที่ประมาณ 10-20% เช่นกัน โดยเฉพาะการจ่ายเงินดาวน์มาแล้ว แต่ภายหลังกลับกู้ไม่ผ่าน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของไตรมาส 2 นั้น ยังคงเห็นแนวโน้มการเปิดโครงการใหม่อยู่บ้าง แต่ไม่มาก เพราะผู้ประกอบการเริ่มปรับตัว และมีความรอบคอบระมัดระวังมากขึ้น เพื่อรอดูสถานการณ์ตลาดเช่นกัน และแม้เห็นความพยายามจะกระตุ้นตลาดโดยรัฐบาล เช่น ออกมาตรการลดค่าโอน จดจำนอง แต่ก็เป็นเพียงการช่วยเหลือลูกค้าในกลุ่มซื้อบ้านต่ำกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ที่เล็กมากเมื่อเทียบกับขนาดใหญ่ของตลาดทั้งระบบ
ด้านนายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอล ลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยฯ กล่าวเสริมว่า ในตลาดมีสต๊อกคอนโดฯ เก่าที่ยังขายไม่หมดกว่า 44,000 ยูนิต เฉพาะกรุงเทพฯ ทำให้ผู้ประกอบการต้องนำกลับมา Resale มีจำนวนมากกว่าคอนโดที่ขายออกไปแล้วซะอีก ด้วยเหตุนี้ผู้ประกอบการจึงต้องงัดแคมเปญ "หลุดดาวน์" ราคาพิเศษพร้อมโปรโมชันอีกมากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าในปีนี้จะมีแคมเปญระบายคอนโดฯ หลุดดาวน์ออกมาเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังพบว่า ถึงแม้ว่าบางโครงการจะได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้ซื้อและนักลงทุนเป็นจำนวนมากในช่วง Presale จนสามารถปิดการขายได้ 100% แต่ปรากฏว่า เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จและมีการเรียกโอนห้องชุดกลับไม่สามารถเรียกโอนได้ครบ 100% แต่พบว่ามีการทิ้งดาวน์มากกว่า 20%
แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า มีผู้ประกอบการไทยบางส่วนพลิกวิกฤติเป็นโอกาส หาช่องทางการขายและกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ของตลาดต่างชาติ ด้วยการนำสินค้าออกไปโรดโชว์ตามประเทศเป้าหมาย โดยเฉพาะ เมืองหลักและเมืองรองของประเทศจีน ที่มีความสนใจซื้อ-ลงทุนอสังหาฯไทยอยู่มาก เช่น ฮาบิแทท กรุ๊ป, ไซมิส แอสเสท และ แกรนด์ ยูนิตี้ ที่เตรียมนำคอนโดฯเปิดใหม่ย่านสาทร ไปโรดโชว์ที่ขายที่ฮ่องกงและไต้หวันด้วย
นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ประกอบการที่มีสต๊อคคอนโดมิเนียมจำนวนมาก ติดต่อเอเยนต์จีนในประเทศไทยให้ช่วยทำตลาด แต่เนื่องจากลูกค้าจีนในช่วงนี้ค่อนข้างชะลอการตัดสินใจซื้อ นอกจากจะมีสินค้าที่ราคาค่อนข้างถูก และโปรโมชันแรงๆ ถึงจะซื้อ
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ