บ้านต่ำล้านดีมานด์สูง

          บาเนีย ชี้พื้นที่ชานเมืองกรุงเทพฯนนทบุรี แหล่งที่อยู่อาศัยต่ำล้าน ขณะที่ซัพพลายมีน้อย เหตุที่ดินราคาแพง

          ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่อยู่อาศัยระดับราคา ต่ำกว่า 1 ล้านบาท นั้นยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง แต่ความสามารถในการซื้อของลูกค้าระดับดังกล่าวสวนทางกันกับความต้องการซื้อ เนื่องจากความสามารถในการเข้าถึงสินเชื่อทางการเงินของลูกค้าระดับดังกล่าวมีค่อนข้างต่ำ ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาหนี้ครัวเรือน ผู้ประกอบการจึงต้องวางแผนให้ดี ในแผนทางด้านทางเงินร่วมกับสถาบันการเงิน เพื่อเป็นการลดความเสี่ยง โดยเฉพาะการที่จะต้องกลับมาทำการตลาดซ้ำหลายรอบ

          อัญชนา วัลลิภากร ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บาเนีย (ประเทศไทย) บริษัทเทคโนโลยีที่พัฒนาเกี่ยวกับ Big Data ของธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยในระดับล่างที่มีราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ยังคงมีอยู่สูง สังเกตได้จากโครงการบ้านล้านหลังของ

          ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่เปิดให้ผู้ต้องการซื้อบ้านราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท จองสิทธิขอสินเชื่อมีวงเงินรวมกันสูงกว่า 1.2 แสนล้านบาท เกินกว่าวงเงินสินเชื่อที่ตั้งไว้ 5 หมื่นล้านบาท

          "ในช่วงเดือน ธ.ค. 2561 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนและหลังที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์เปิดให้จองสิทธิ สินเชื่อโครงการบ้านล้านหลัง พบว่ามีผู้ที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ผ่านเว็บไซต์ Baania เพิ่มขึ้น 23.7%" อัญชนา กล่าว

          อย่างไรก็ตาม ในด้านของซัพพลาย จะพบว่าโครงการที่อยู่อาศัยในราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท มีอยู่ในตลาดน้อยมาก เนื่องจากต้นทุนที่ดินโดยเฉพาะในเขตเมืองมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยส่วนใหญ่ไม่สามารถพัฒนาโครงการในราคาที่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทได้ แต่ก็ยังมีผู้ประกอบการที่สามารถพัฒนาโครงการในราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท โดยอาจจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างออกไป เช่น มีต้นทุนที่ดินและต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำ ออกแบบบ้านที่ทำให้ต้นทุนการก่อสร้างไม่สูงเกินไป เช่น ออกแบบให้เป็นบ้านชั้นเดียว เป็นต้น

          กทม.โซนเหนือทำเลบ้านแนวราบ

          ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลโครงการที่อยู่อาศัยที่ราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่าโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี และนนทบุรี โดยอยู่ในพื้นที่ อ.ธัญบุรี มากที่สุด 35 โครงการ คิดเป็น 10.09% อ.คลองหลวง เป็นอันดับ 2 จำนวน 31 โครงการ คิดเป็น 8.93% ขณะที่ อ.ลำลูกกา เป็นอันดับ 3 จำนวน 29 โครงการ คิดเป็น 8.36% ส่วนอันดับ 4 ได้แก่ อ.บางบัวทอง 21 โครงการ 6.05% และอันดับ 5 ได้แก่ อ.เมืองสมุทรปราการ 21 โครงการ คิดเป็น 6.05%

          สำหรับโครงการแนวราบประเภททาวน์เฮาส์ที่มีราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท มีสัดส่วน 79% โดยพบการ กระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ คลอง 3-อ.ลำลูกกา เมืองสมุทรปราการ กระทุ่มแบน เมืองนครปฐม และบางบัวทอง-ไทรน้อย  ส่วนในกรุงเทพมหานครยังพอมีทาวน์เฮาส์ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท กระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ฝั่งตะวันออก เช่น บริเวณ เขตมีนบุรี เขตหนองจอก หรือตามแนวถนนรามคำแหง ประชาร่วมใจ เป็นต้น

          ขณะที่โครงการบ้านเดี่ยวมีสัดส่วนอยู่ประมาณ 21% โดยในพื้นที่กรุงเทพมหานครยังพบบ้านเดี่ยวราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท ได้ในพื้นที่หนองจอก ส่วนในจังหวัดปริมณฑลยังมีบ้านเดี่ยวราคา เริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาทในหลายทำเล เช่น ใน จ.ปทุมธานี มีอยู่ในพื้นที่รังสิตคลองต่างๆ ทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง ส่วน จ.นนทบุรี จะมีอยู่ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง ขณะที่ จ.สมุทรปราการ มีอยู่ในพื้นที่ อ.บางเสาธง เป็นต้น

          นนทบุรีทำเลคอนโดต่ำล้าน

          ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมที่มีราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท พบว่า จะอยู่ในพื้นที่ที่ใกล้เมืองมากกว่าที่อยู่อาศัยแนวราบ ในบริเวณกรุงเทพฯ ชั้นกลาง-ชั้นนอก และพื้นที่รอยต่อของกรุงเทพฯ กับปริมณฑล โดยอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองนนทบุรี มากที่สุด 84 โครงการ คิดเป็น 14.36% อันดับ 2 ได้แก่ อ.เมืองสมุทรปราการ 42 โครงการ คิดเป็น 7.18% อันดับ 3 เขตบางกะปิ 29 โครงการ คิดเป็น 4.96% อันดับ 4 อ.ปากเกร็ด 28 โครงการ 4.79% และอันดับ 5 เขตลาดพร้าว 22 โครงการ 3.76% สำหรับพื้นที่ที่มีการกระจุกตัวของคอนโดมิเนียมราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท จะอยู่ในพื้นที่เมืองนนทบุรี ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน-บางใหญ่ และในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง

          นอกจากนี้ ยังมีโครงการของการเคหะแห่งชาติ ที่ราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท อยู่ในพื้นที่ อ.คลองหลวง มากที่สุด 11 โครงการ 15.28% อันดับ 2 อ.บางพลี 7 โครงการ 9.72% อันดับ 3 อ.ธัญบุรี 6 โครงการ 8.33% และ อ.สามพราน 6 โครงการ 8.33% และอันดับ 5 ได้แก่ เขตลาดกระบัง อ.เมืองสมุทรปราการ และ อ.เมืองสมุทรสาคร พื้นที่ละ 4 โครงการ 5.56% เท่ากัน

          แม้ว่าความต้องการที่อยู่อาศัยระดับดังกล่าวยังมีอยู่สูง แต่ความเสี่ยงของผู้ประกอบการยังมีสูงเช่นกันในภาวะที่เศรษฐกิจผันผวนเช่นนี้