ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ รวมทั้งหัวเมืองใหญ่และจังหวัดท่องเที่ยวมีการเติบโตอย่างมาก ทั้งจากผู้ซื้อคนไทยและชาวต่างชาติ ทั้งนี้สะท้อนได้จากการเปิดตัวโครงการใหม่ในแต่ละปีมีมูลค่าราวกว่า 4 แสนล้านบาท

          แฮรี่ วี คริสฮาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป เปิดเผยว่า กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในตลาดอสังหาฯ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีนวัตกรรมมากที่สุดในเอเชีย นอกจากนี้ การเติบโตของตลาดอสังหาฯ แม้จะเติบโตไตรมาสละ 1% แต่มั่นคงต่อเนื่อง 
          สำหรับประเภทอสังหาฯ ที่ได้รับความสนใจทั้งคนไทยและลูกค้าต่างชาติ คือ คอนโดมิเนียม โดยทำเลนอกจากกรุงเทพฯ แล้ว จ.ภูเก็ต เป็นพื้นที่ที่ชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น จีน สิงคโปร์ ให้ความสนใจที่จะลงทุน

          ทั้งนี้ สิ่งที่จะช่วยสนับสนุนให้ตลาดอสังหาฯ ในไทยเติบโตเพิ่มขึ้น คือการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเช่น นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) สมาร์ทโฮม ฯลฯ มาเสริมรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล

          "ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2562 ตลาดบนหรือระดับลักซ์ชัวรี่ยังไปได้ดี ส่วนตลาดคอนโดระดับกลางและล่างจะเติบโตขึ้นอยู่กับแคมเปญที่จะร่วมกับสถาบันการเงินที่จะมาช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ ทั้งอยู่อาศัยเองและซื้อเพื่อลงทุน โดยเชื่อว่าอีก 2 ปีข้างหน้าจะมีโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างมาก ซึ่งผู้ประกอบการอสังหาฯ ไทยก็เริ่มออกไปลงทุนที่ต่างประเทศเช่นกัน อาทิ จีน ญี่ปุ่น โดยคอนโดเซ็กเมนต์ ไฮเอนด์จะขายดีมากที่สุด" คริสฮาน กล่าว

          ขณะเดียวกัน เห็นว่าการเลือกตั้งปีหน้าจะไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้ตลาดตกหรือเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่เป็นการรอดูสถานการณ์ทำให้ตลาดชะลอตัวในระยะสั้นเท่านั้น

          ด้าน วิคราม โคห์ลี กรรมการ ผู้จัดการ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของซีบีอาร์อี กล่าวว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะมีการเติบโตที่ดีต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ ส่วนในปีหน้าอาจชะลอตัวในระยะสั้นๆ ก่อนและหลังการเลือกตั้ง

          ในส่วนของเทรนด์อสังหาฯ ในประเทศไทย พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงจากการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาเสริมศักยภาพและเพิ่มมูลค่าให้อสังหาฯ ในอนาคต โดยนวัตกรรมที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาฯ ให้โตแบบก้าวกระโดด คือ บิ๊กดาต้า-พร็อพเทค-ฟินเทค

          "การนำดาต้ามาใช้วิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการซื้อบ้านของผู้บริโภคจะเป็นประโยชน์แก่ผู้พัฒนาโครงการเจาะตลาดได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งทำให้เกิดความโปร่งใสทั้งผู้ซื้อผู้ขาย ซึ่งเมื่อมีความชัดเจนจะทำให้เกิดการทำธุรกรรมในตลาดมากขึ้น และส่งผลทั้งอุตสาหกรรมเติบโต" โคห์ลี กล่าว

          คริสโตเฟอร์ เจ แมริออท ประธานเจ้าหน้าที่ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซาวิลส์ กล่าวว่า พร็อพเทคอาจเป็นสาเหตุของปัญหาด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ ซึ่งต้องคำนึงถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยี

          อย่างไรก็ดี เทคโนโลยีทางการเงินยังเป็นหนึ่งในฟังก์ชั่นของพร็อพเทค ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อขายอสังหาฯ เช่น การขยายช่องทางจำหน่ายออฟไลน์ไปสู่ออนไลน์ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ธุรกิจเติบโตก้าวกระโดด และทุกคนยังสามารถมีส่วนร่วมเชื่อมโยงธุรกิจอสังหาฯ ได้อย่างง่ายดาย เป็นต้น ซึ่งการใช้เทคโนโลยีถือว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับนักพัฒนาอสังหาฯ ไทยรับยุค 4.0