แบงก์เข้มอสังหาโตต่ำเป้า
Loading

แบงก์เข้มอสังหาโตต่ำเป้า

วันที่ : 8 พฤศจิกายน 2561
แบงก์เข้มสินเชื่อทาอสังหาฯ ไตรมาส 2-4 โตต่าเป้าฉุดธุรกิจวัสดุก่อสร้างทรงตัว คาดปรับลดเป้ารายได้ 15% เบนเข็มซบโครงสร้างพื้นฐาน-เขตศก.พิเศษรัฐ
          ฉุดวัสดุก่อสร้างรายได้วูบ หันซบโปรเจ็กต์รัฐ

          แบงก์เข้มสินเชื่อทาอสังหาฯ ไตรมาส 2-4 โตต่าเป้าฉุดธุรกิจวัสดุก่อสร้างทรงตัว คาดปรับลดเป้ารายได้ 15% เบนเข็มซบโครงสร้างพื้นฐาน-เขตศก.พิเศษรัฐ

          จากที่สถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อส่งผลให้อัตราการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่ำกว่าเป้า 3% ทำให้ ธุรกิจเกี่ยวเนื่องต้องปรับตัวตามไปด้วย

          นายอัครภัทร ทองน้ำตะโก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ควิก โคท โปรดักส์ จำกัด เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ผล กระทบจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขยายตัวลดลง ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเกี่ยวเนื่อง อย่างวัสดุก่อสร้างได้รับผลกระทบตามไปด้วย คาดว่าปีนี้บริษัทจะปรับเป้ารายได้ลดลง 15% ขณะที่ปี 2552 ตั้งเป้าโต 10% เช่นเดิมและปรับตัวใหม่ แนวโน้มจะหันไปรับงานด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษของภาครัฐมากขึ้น ทั้งนี้มองว่าเป็นปัจจัยหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศขณะเดียวกันได้เร่งระบายสต๊อกสินค้าและหันมาเน้นขายตรงกับโครงการมากขึ้น

          "กำลังซื้อที่ยังคงมีปัญหาจะเป็นปัจจัยที่สร้างสต๊อกรอบใหม่ เพราะผู้ประกอบการลงทุนไปแล้ว รอไม่ได้ แต่ปล่อยไม่ออก กระทบการลงทุนในโครงการใหม่ ส่วนฝั่งการเมือง การเลือกตั้งค่อนข้างชัดเจนว่ามีแน่ แต่คาดเดาผลยาก โดยเฉพาะผลหลังการเลือกตั้งซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักประการหนึ่งของบรรยากาศการลงทุนจากปลายปีนี้ถึงปลายปีหน้า ขณะที่ช่วง 6 เดือนแรกเราเติบโตราวๆ 4% สูงกว่าตลาด ส่วนครึ่งหลังยอดขายตกเป้า จากกำลังการผลิตที่หายไป แต่เริ่มช่วงชิงพื้นที่กลับคืนมาได้ตามลำดับ หลังจากที่มีการปรับแผน การผลิตที่พึ่งพาตัวเองมากขึ้น ส่วนกำไรยังอยู่ในระดับเดิม จากการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรการเปลี่ยนจากรับจ้างผลิตมาผลิตเอง การปรับพอร์ต การขายที่เจาะลงแนวลึกในกลุ่มสินค้าที่มีผลตอบแทนสูงมากขึ้นรวมทั้งปีคาดว่ายอดขายอยู่ในระดับ 600-700 ล้านบาท ดังนั้นถึงสิ้นปีนี้ยังคาดการณ์ยอดขายต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนด 25-30% สัดส่วนกำไรสูงขึ้นจากสินค้ากลุ่มรอง ผลกำไรยังคงอยูในระดับเดิม และปรับเป้าปฏิบัติงานลดลงไปแล้ว 15-20%"

          นอกจากนี้ บริษัทยังให้น้ำหนักกับการสร้างนวัตกรรมในตัวผลิตภัณฑ์มากขึ้น จากที่ลดความเข้มข้นไปในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา รวมถึงเริ่มแผนในการเข้าสู่มาตรฐาน ISO เต็มระบบโดยเริ่มโครงการตั้งแต่ปลายไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยนโยบายในการพัฒนายังคงอยู่บนพันธกิจของบริษัทภายใต้หลักการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาคน

          ลำดับถัดไปคือเรื่องการขยายกำลังการผลิต วิกฤติจาก งานระบบในปีนี้ ผลักดันให้ต้องเร่งการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด ทำให้แผนพัฒนาและขยายโรงงานเริ่มผลิตเร็วขึ้นกว่าเดิม คงต้องขอบคุณสถานการณ์ที่ผ่านมาที่บีบให้ต้องดิ้นรนเพื่ออยู่รอด

          สำหรับในส่วนของการขายนั้นยังคงมุ่งขยายช่องทางทั้ง 2 แกน ทั้งแนวตั้งและแนวราบ อันนี้เป็นพื้นฐานของการขายโดยมีผลิตภัณฑใหม่ๆ อย่าง "มาย ลอฟท์" หรือปูนลอฟท์ที่โดด เด่นสำหรับลูกค้า ผลิตภัณฑ์ "โฮมยูส" และ ปูนก่อ/กาวอเนกประสงค์ GP 100 ที่เริ่มได้รับการยอมรับจากตลาดกลุ่มก่อสร้าง เป็นหัวหอกในปีนี้และจะมีตามออกมาในปีหน้า โดยจะเริ่มเปิดช่องทางขายไปยังกลุ่ม ประเทศเพื่อนบ้าน

          "แผนการตลาดแน่นอนว่าต้องมีการปรับให้เข้มข้นขึ้น ช่วงปีที่ผ่านมาเราสะสมกระสุนไว้รอมาใช้ในปีนี้ในเวลาที่กำลังการผลิตเราเพียงพอและพร้อมเข้าแข่งขันเชิงรุกมากขึ้น ส่วนสำคัญที่สุดอีกส่วนหนึ่งคือตัวแทนจำหน่าย ที่ในปี 2562 ขอเรียกว่าปีแห่งการขอบคุณลูกค้าที่เป็นเสมือนเพื่อน เสมือนครอบครัว เป็นช่วงเวลาที่เราจะกลับไปบอกลูกค้าทุกๆ คนว่า เราขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน ขอบคุณที่ยังเชื่อมั่นและไว้ใจให้เราเป็นส่วนหนึ่งที่เคียงคู่ไปกับกิจการเสมอมา"
 
ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ