ในไตรมาส 4 ปี 2563 สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยทั่วประเทศมีการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องจาก     ไตรมาส 3 ปี 2563 ทั้งด้านอุปทานด้านการออกใบอนุญาตสรรที่ดิน การออกใบอนุญาตก่อสร้าง  และอุปสงค์ด้านการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย ซึ่งได้รับผลอย่างมากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID -19 ระลอกใหม่ในช่วงปลายเดือนธันวาคม และมีการควบคุมการดำเนินธุรกิจบางประเภท การจำกัดการเดินทางเข้า-ออกบางจังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ซึ่งมีผลต่อกำลังซื้อและความมั่นใจในการซื้อของที่อยู่อาศัยของประชาชนมาก
                 ในภาพรวมปี 2563 ที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 สองระลอก คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวติดลบถึง ร้อยละ -6.0 ส่งผลทำให้ทั้งอุปทานและอุปสงค์ของตลาดที่อยู่อาศัยหดตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ โดยเฉพาะตลาดอาคารชุด ซึ่งได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อชาวต่างชาติที่ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ อย่างไรก็ตาม จากการที่รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และการจดจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ (ไม่นับรวมบ้านมือสอง) ในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท รวมทั้งการที่ผู้ประกอบการจัดรายการส่งเสริมการขาย เช่น การลดราคาขายลงร้อยละ 20 – 30 การช่วยเงินค่าผ่อนบ้าน การให้อยู่ฟรี 2 – 3 ปี การรับประกันผลตอบแทน ฯลฯ เป็นปัจจัยที่มีส่วนช่วยกระตุ้นทำให้ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศให้ลดลงในระดับที่ไม่รุนแรงตามที่คาดการณ์กันไว้ตั้งแต่ต้นปี โดยยอดโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2563 มีการหดตัวลงร้อยละ -8.5 ของจำนวนหน่วย และร้อยละ -0.3 ของมูลค่า แต่การลดลงของอุปทานที่อยู่อาศัยจากการขอใบอนุญาตจัดสรรที่ดิน และ การขอใบอนุญาตปลูกสร้างที่ลดลงในปี 2563 ร้อยละ -16.9 และ -9.0 ตามลำดับนั้น นับว่าเป็นการปรับตัวเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างอุปสงค์ และอุปทานของตลาดที่อยู่อาศัย




                                                                                                                                                                                                                                                                       อ่านต่อฉบับเต็ม .... Download PDF