จับตาธุรกิจอสังหาฯ ควบรวมรีเทิร์น
Loading

จับตาธุรกิจอสังหาฯ ควบรวมรีเทิร์น

วันที่ : 17 กรกฎาคม 2567
สำนักงาน กขค.กางเทรนด์นโยบายดูแลการแข่งขันโลก ติดใจต้นเหตุภาวะ เงินเฟ้อพุ่ง เจาะลึกฟู้ดคอมเพาเดชั่น-การค้าดิจิทัล ในไทยจับตาควบรวมธุรกิจอสังหาฯกลับมาพีคอีกครั้ง แก้เกมซัพพลายล้น-เลี่ยงภาษี
  ลดภาระภาษีที่ดิน-โอเวอร์ซัพพลาย

  เทรนด์คุมแข่งขันโลกติดใจเงินเฟ้อ
 
   นายมนยศ วรรธนะภูติ รองเลขาธิการคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สำนักงาน กขค.) เปิดเผยว่า ด้านนโยบายดูแลการแข่งขัน พบว่าขณะนี้หลายประเทศให้น้ำหนักในหลายเรื่อง หลักๆ คือการแข่งขันทางการค้าต่อประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม การกำกับการแข่งขันทางการค้าในตลาดดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มและโลจิสติกส์ การดูแลทรัพย์สินทางปัญญาอย่างสิทธิบัตร และหลายประเทศกำลังมุ่งเน้นในเรื่องฟู้ดคอมเพาเดชั่น (Food Compoundation) ซึ่งลงลึกไปถึงสารประกอบอาหาร ที่ดูทั้งกระบวนการตั้งแต่ราคาผลผลิต ต้นทุนกับผู้บริโภค และโครงสร้างด้านต่างๆ อาจเพราะที่ผ่านมาโลกเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูง เช่น ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เป็นต้น ได้มีการหยิบยกขึ้นพูดในวงสัมมนาด้านแข่งขันทาง การค้า ดังนั้น เรื่องเหล่านี้เป็นประเด็นที่สำนักงาน กขค.ควรต้องเตรียมศึกษาเช่นเดียวกัน

    นอกจากนี้สำนักงาน กขค.มีแผนที่จะความตกลงกับหน่วยงานราชการต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนและร่วมมือในการดูแลการแข่งขันที่เป็นธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ร่วมมือกับกรมการค้าภายใน เป็นประโยชน์การเฝ้าระวังเรื่องราคาสินค้าที่ผิดปกติ

    นายมนยศกล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการเตรียม ความพร้อมสำหรับการเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD ว่า ในส่วนของสำนักงาน กขค.ขณะนี้ไทยอยู่ในกระบวนการเข้าสู่การเป็นสมาชิกกลุ่ม ในส่วนของสำนักงาน กขค.ก็เตรียมความพร้อมทั้งข้อมูลและดูความคืบหน้าปรับกฎหมายหรือหลักเกณฑ์สอดคล้องกับความร่วมมือของ OECD ซึ่งไทยมีศักยภาพด้านการแข่งขันทางการค้าของไทยในสายตานานาชาติ

    นายมนยศกล่าวถึงจำนวนการรับเรื่องการแจ้งผลการรวมธุรกิจและการขออนุญาตรวมธุรกิจว่า ครึ่งปีแรก 2567 มี 8 ราย แยกเป็นธุรกิจการเงิน 1 ราย บริการ 1 ราย สินค้าอุปโภคบริโภค 5 ราย เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร 1 ราย หากดูย้อนหลังตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบันมีการรับเรื่องรวม 150 ราย หากดูเทียบกับปีก่อนหน้านี้ เป็นที่ตั้งสังเกตว่าเป็นไปได้ที่ทั้งปี 2567 นี้อาจมีจำนวนแจ้งรวมธุรกิจและการขออนุญาตรวมธุรกิจน้อยสุดในรอบ 5 ปี จากช่วงปี 2562-2566 ที่มีจำนวน 24 ราย 16 ราย 32 ราย 42 ราย และ 28 ราย ตามลำดับ

    แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า นอกจากประเด็นการติดตามและตรวจสอบเรื่องการถือหุ้นแทน (นอมินี) ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้ว ยังหารือสำนักงาน กขค.ติดตามการควบรวมของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่กับบริษัทที่มีเพียงที่ดินหรือเจ้าของที่ดินที่เลี่ยงภาษีที่ดินจัดตั้งทำบริษัท และเสนอขายให้กับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มโอเวอร์ซัพพลาย ทำให้เจ้าของที่ดินขายได้ยากขึ้นแต่ไม่อยากแบกรับภาระภาษีที่ดิน จึงจัดตั้งเป็นบริษัทเพราะเสียภาษีน้อยกว่า จะกลับมาเป็นกระแสควบรวมกันมากขึ้นจากนี้ หลังจากมีปี 2565-66 มีจำนวนยื่นขออนุมัติรวบรวมถึง 9 ราย