NWR ชี้ธุรกิจรับเหมาปี 2565 ฟื้น เดินหน้าโกยงานภาครัฐเพิ่มต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ระหว่างติดตามงานกว่า 3.9 หมื่นล้านบาท คาดรับงานใหม่เข้าพอร์ตไม่ต่ำกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท ขณะที่ตั้งเป้ารายได้ ปี 2565 โต 30% รับรู้งานในมือที่มีอยู่กว่า 3.7 หมื่นล้านบาท

          นายปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการ ผู้จัดการอาวุโส บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จากัด (มหาชน) หรือ NWR เปิดเผยว่า ทิศทางอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างปี 2565 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากปีนี้ โดยคาดว่าจะมีงานโครงการภาครัฐขนาดใหญ่ ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่ารายได้ รวมปี 2565 จะเติบโตประมาณ 30% ตามการรับรู้รายได้งานในมือ (Backlog) ที่มี ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูง

          ซึ่งล่าสุดบริษัทได้ร่วมประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) วงเงินงบประมาณรวม 78,720 ล้านบาท ร่วมกับบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD โดยคาดว่าจะทราบผลการประมูลในช่วงเดือนมีนาคม 2565 รวมถึงงานในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และงานท่าเรือต่างๆ ที่จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง

          โกยงานเพิ่ม 1.6 หมื่นล.

          สำหรับในปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารับงานใหม่ราว 16,000 ล้านบาท จากปี 2564 ที่บริษัทได้รับงานประมูลทั้งหมด 14,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) 37,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีงานที่อยู่ระหว่างติดตามและประมูลงานในปี 2564 อีกราว 39,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยประกาศผลในปี 2565

          อย่างไรก็ดี การขาดแคลนแรงงาน ของภาคธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในปัจจุบัน ยังถือว่าเป็นปัญหาหลัก แต่บริษัทยังสามารถบริหารจัดการได้ โดยภาครัฐเตรียมรับแรงงานต่างชาติ เข้ามาในระบบคัดกรอง ซึ่งหากดำเนินการได้ก็จะส่งผลดีต่อธุรกิจในลำดับถัดไป แต่หากยังไม่สามารถนำเข้าแรงงานต่างชาติได้ และในปีหน้าหากมีงานเข้ามามากขึ้นก็จะเกิดปัญหาที่รุนแรง

          สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ดำเนินการภายในบริษัท มานะ พัฒนาการ จำกัด มีโครงการเหลือขายและทยอยโอนกรรมสิทธิ์ราว 170 ล้านบาท และในปี 2564 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวมจากธุรกิจอสังหาประมาณ 700 ล้านบาท ส่วนแผนในปี 2565 บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการ มูลค่า 1,700 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการแนวราบ มูลค่า 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดในช่วงไตรมาสที่ 1/2565 และโครงการคอนโดมิเนียม มูลค่า 700 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดในช่วงไตรมาสที่ 4/2565

          แบ็กล็อกรองรับ 4 ปี

          บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง NWR ว่ามีงานในมือสูงถึง 38,557 ล้านบาท สามารถรองรับรายได้ในช่วง 3-4 ปี และยังมีงานที่อยู่ระหว่างติดตาม 34,432 ล้านบาท คาดว่าในปี 2565 จะได้งานใหม่ใกล้เคียงปี 2564 ประมาณ 14,000 ล้านบาท ซึ่งรายได้ในปี 2564 ผู้บริหาร ปรับลดเป้าหมายลงเหลือประมาณ 10,000 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อย จากเป้าหมายต้นปีที่ 12,000-13,000 ล้านบาท เนื่องจากการแพร่ระบาด โควิด-19 มีการปิดแคมป์คนงานและ ไซต์งานก่อสร้าง

          แต่จากงานในมือที่สูง ในปี 2565 คาดว่ารายได้จะเติบโตสูง 26% สู่ระดับ 13,255 ล้านบาท และกำไรฟื้นตัว 136 ล้านบาท ทางฝ่ายวิเคราะห์ยังมีความกังวลการปรับต้นทุนที่สูงกว่าประมาณการ อาจจะทำให้กำไรไม่ได้ตามคาด ปรับคำแนะนำเป็น "ถือ"