เผยอสังหาฯอีอีซียังไม่ฟื้น
Loading

เผยอสังหาฯอีอีซียังไม่ฟื้น

วันที่ : 1 พฤศจิกายน 2564
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า สถานการณ์ช่วงครึ่งแรกปี 64 เป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิดถึงสองระลอก ส่งผลให้มีโครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับอนุญาตจัดสรรที่ดินจากกรมที่ดินเพียง 71 โครงการ ลดลง 22.8%
           นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จ.ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ได้รับผลกระทบมาตรการควบคุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดพื้นที่สีแดงเข้ม มีผลต่อกำลังซื้อและความมั่นใจในการซื้อที่อยู่อาศัยของจังหวัดในกลุ่มพื้นที่อย่างมาก

          ทั้งนี้ ช่วงครึ่งปีแรก 64 ในจังหวัดอีอีซีมีการซื้อขายโอนกรรมสิทธิ์ทั้งสิ้น 16,045 หน่วย ลดลง 21.9% มูลค่า 37,855 ล้านบาท ลดลง 18.1% แบ่งเป็น ชลบุรี 12,489 หน่วย ลดลง 5.3% มูลค่า 30,436 ล้านบาท ลดลง 3.6% ระยอง มี 2,794 หน่วย ลดลง 47.5% มูลค่า 5,874 ล้านบาท ลดลง 43.8%  และฉะเชิงเทรา 762 หน่วย ลดลง 62.6% มีมูลค่า 1,545 ล้านบาท ลดลง 63.1% ส่วนการออกใบอนุญาตจัดสรรมากที่สุด คือ จังหวัดชลบุรี 3,704 หน่วย ระยอง 2,782 หน่วย และฉะเชิงเทรา 604 หน่วย ส่วนจังหวัดที่มีการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยมากที่สุด คือ จังหวัดชลบุรี 10,389 หน่วย ระยอง  3,722 หน่วย และฉะเชิงเทรา 2,938 หน่วย

          "สถานการณ์ช่วงครึ่งแรกปี 64 เป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิดถึงสองระลอก ส่งผลให้มีโครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับอนุญาตจัดสรรที่ดินจากกรมที่ดินเพียง 71 โครงการ ลดลง 22.8% และจำนวน 7,090 หน่วย ลดลง 15.7% โดยส่วนใหญ่ใบอนุญาตจัดสรรที่ดินเป็นทาวน์เฮาส์มากที่สุด  3,682 หน่วย สัดส่วน 51.9% รองลงมาเป็นบ้านแฝด 1,676 หน่วย สัดส่วน 23.6% และบ้านเดี่ยว 1,667 หน่วย สัดส่วน 23.5% ส่วนที่เหลือเป็น อาคารพาณิชย์ และที่ดินจัดสรร ตามลำดับ"

          สำหรับแนวโน้มภาพรวมทั้งปี 64 โดยประมาณการในด้านอุปทานการขอใบอนุญาตจัดสรรที่ดินในปี 64 จะมีติดลบ 17.5% ถึงบวก 0.8% การขอใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยจะติดลบ 9.2%  ถึงบวก 11% ส่วนด้านอุปสงค์ปี 64 คาดการณ์ว่า หน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยจะติดลบ 37.8% ถึงลบ 24.0% แต่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์จะขยายตัว 9.5-33.8% เนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยต่อหน่วยปรับตัวสูงขึ้น เทียบกับปี 63