“PF” เตรียมปรับลดเป้าผลงานปีนี้ จากเดิมคาดมีรายได้รวม 21,370 ล้านบาท และยอดขาย 16,400 ล้านบาท หลังครึ่งปีแรกพลาดเป้าทำยอดขายได้แค่  6,200 ล้านบาท รับผลกระทบจากโควิด-19 ระบาดหนัก ขณะที่ครึ่งปีหลังเล็งเปิดใหม่ 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 9,000 ล้านบาท

          นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนปรับลดเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2564 จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายจะมีรายได้รวม 21,370 ล้านบาท และวางเป้าหมายยอดขาย (Presale) ไว้ที่ 16,400 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกผลการดำเนินงานไม่เป็นตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้สะท้อนและสอดคล้องกับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบที่ 3 คาดว่าจะสามารถประเมินเป้าหมายใหม่ได้หลังจากสรุปงบครึ่งปีแรกแล้วเสร็จ ซึ่งจะมีการประชุมในเร็ว ๆ นี้

          สำหรับในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทมียอดขายรวมแล้วกว่า 6,200 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมจะลดลง แต่ยอดขายจากโครงการแนวราบเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

          โดยสัดส่วนยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกมาจากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 900 ล้านบาท ส่วนที่เหลือประมาณ 5,300 ล้านบาท มาจากยอดขายโครงการแนวราบ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมายังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าความต้องการจะยังคงมีอยู่ในปัจจุบันด้วย

          สำหรับกรณีการปิดแคมป์คนงานก่อสร้างเป็นระยะเวลา 30 วัน ส่งผลกระทบต่องานก่อสร้างโครงการแนวราบ เพราะคนงานไม่สามารถเข้าทำงานได้ ส่วนโครงการประเภทคอนโดมิเนียมไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัทเป็นโครงการที่สร้างเสร็จแล้วทั้งหมด

          นายวงศกรณ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าประเภทโครงการแนวราบที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในพอร์ต รวมมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งรองรับการขายได้ประมาณ 2-3 เดือน (เฉลี่ยยอดขายโครงการแนวราบที่ประมาณ 1,200 ล้านบาทต่อเดือน) ขณะที่ยอดขายรอโอน (Backlog) จากโครงการแนวราบที่เป็นบ้านสั่งสร้าง บริษัทเชื่อว่าหลังจากที่รัฐบาลปลดล็อกให้คนงานกลับมาทำงานได้ จะสามารถเร่งงานก่อสร้างให้เสร็จตามกำหนดได้ทัน

          นอกจากนี้ บริษัทยังคงแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2564 ไว้ตามเดิม โดยจะเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 9,930 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ไปแล้ว จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 920 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 9,000 ล้านบาท จะทยอยเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้